ไม่พบผลการค้นหา
อดีตแกนนำ กปปส. ร่วมประชุมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย สืบสานเจตนารมณ์มวลมหาประชาชน ระดมสมาชิกพรรคใน 3 เดือน ด้าน 'สุเทพ เทือกสุบรรณ' หลั่งน้ำตาประกาศจุดยืนเมินเสียงโจมตีตระบัดสัตย์เล่นการเมือง ยันไม่ลง ส.ส. เตรียมใช้รองเท้าคู่เดิมเดินสายรณรงค์หาสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ขณะที่ 'เอนก' ยกย่องการต่อสู้ทางการเมืองปี 2556 ย้ำทำพรรคธรรมาธิปไตย

พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)จัดประชุมผู้ก่อตั้งพรรคและผู้สนับสนุนพรรค เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่อาคารสุริยะเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล นายธานี เทือกสุบรรณ นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อธิการวิทยาลัยรัฐกิจ ม.รังสิต นายสำราญ รอดเพชร นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และนายสาธิต เซกัล ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมทั้งมีประชาชนจากจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

สำหรับการประชุมของพรรคในครั้งนี้ได้พูดที่มาของพรรครวมพลังประชาชาติไทย จุดกำเนิดของพรรค รวมทั้งการสืบสานเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนในการปฏิรูปประเทศ 5 ด้านให้ประสบความสำเร็จ

ขณะที่ นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า พรรคตั้งเป้าจะหาสมาชิกให้ได้ 120,000 คน โดยจะต้องมีอย่างน้อยจังหวัดละ 100 คน และคาดว่าจะสามารถเปิดประชุมพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้ประมาณต้นเดือนกันยายน ซึ่งจะเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค 2 ชุด ชุดละ 9 คน และมีวาระการดำรงตำแหน่งชุดละ 2 ปี


สุเทพ เทือกสุบรรณ รวมพลังประชาชาติไทย กปปส 0180603_Sek_03.jpg

'เอนก' ยกย่องชุมนุมปี 56 ยัน รปช.ทำการเมือง ธรรมาธิปไตย

ด้าน นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อธิการวิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต 1 ในผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ย้ำจุดยืน ของผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหม่ พรรคในประเทศมีมากมาย แบ่งได้ 3 รูปแบบ คือพรรคทหาร พรรคที่ทำรูปแบบธุรกิจการเมืองและแบบสุดท้ายเป็นรูปแบบพรรคที่มีนักการเมือง คาดหวังการเป็นรัฐมนตรี รวมถึงต้องการเป็นนายกรัฐมนตรี 

นายเอนก ย้ำว่า "ขอยืนยันกับมิตรทั้งหลายประชาชนทั้งหลาย ผมไม่ได้ทำพรรคอยากเป็นหัวหน้า ไม่ได้อยากเป็นรัฐมนตรี ไม่ได้อยากทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวทั้งสิ้น การทำพรรคครั้งนี้เพราะผมได้พบผู้ก่อตั้งเป็นสิบเป็นร้อยหลายเดือนมาแล้ว ทำงานยังไงให้บ้านเมืองมีทางรอด การเมืองอย่างไหนทำให้เกิดแสงสว่าง"

เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รวมพลังประชาชาติไทย 20180603_Sek_05.jpg


"คนเหล่านี้หลายคนต่อสู้ตั้งแต่ปี 2516 ปี 2519 ต่อสู้เมื่อปี 2535 หลายคนต่อสู้ตั้งแต่ปี 2548 -2549 จนถึงปี 2556 พี่น้องครับคนไทยจริงๆแล้ว รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คนไทยต้องการประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยแบบธรรมาธิปไตย คนไทยนั้นเกลียดประชาธิปไตยแบบฉ้อฉล ประชาธิปไตยที่เอาแต่อำนาจ ผลประโยชน์ แต่พี่น้องประชาชนได้แสดงให้เห็นแล้วครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ล้มตาย หาประชาชนอย่างนี้ยาก นี่คือประชาชาติไทยที่ยิ่งใหญ่" นายเอนก ระบุ

นายเอนก ยืนยัน พรรครวมพลังของชาติไทยเป็นพรรคใหม่ ที่ไม่เป็นรูปแบบเดิมๆ ส่วนตัวย้ำ การเข้าร่วมทำพรรคครั้งนี้ ไม่ต้องการเป็นหัวหน้าพรรคหรือเป็นรัฐมนตรี เมื่อได้พูดคุยกับผู้ร่วมก้อตั้งหลายคน ต้องการทำงานเพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย แบบธรรมาธิปไตย

"เราจะปฏิรูป เราจะไม่ปฏิวัติ เราจะไม่โค่นล้มอะไร เราไม่มีความชิงชังอะไรทั้งสิ้น เราจะทำการเมืองแห่งความรู้รักสามัคคี"

นายเอนก ย้ำด้วยว่า อุดมคติพรรค นอกจากเป็นพรรคประชาชนแล้ว สิทธิชายหญิงจะต้องมีความเท่าเทียม และจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังเพื่อประเทศ และจากนี้ จะไม่ใช่การหลั่งเลือดเพื่อชาติ แต่ต้องลงมือทำเพื่อประเทศ โดยไม่กลัวว่าจะแพ้ เพราะเป็นการทำเพื่อทดแทนแผ่นดินไทยที่รักและภูมิใจ ภายใต้สถาบันที่สูงส่ง โดยพรรคจะปฎิรูป แต่ไม่ปฎิวัติ และจะทำการเมืองแบบรู้รักสามัคคี เพื่อให้ประเทศ อย่างสงบ มีสติ เพื่อลูก หลานในอนาคต  

ปลุก 3 เดือนหน้าเดินรำลึก ย้ำพรรคพลเมืองปกป้องสถาบัน

นายเอนก ระบุด้วยว่า "ภายใน 3เดือนข้างหน้าเราจะเคลื่อนไปทั่วประเทศ เราจะไปเตือนประชาชนอันมากมายมหาศาลให้รำลึกคืนวันที่พวกเราออกมาเต็มถนน ที่พวกเราไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น พวกเรายอมตาย ยอมเจ็บ ยอมติดคุก และกำลังจะติดคุก ขอไม่ติดนะครับ"

"เราจะเป็นพรรคของพลเมือง แต่พลเมืองนี้จะต้องเป็นพสกนิกรที่รักภักดีและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะต้องปกป้องสิ่งที่ดีงามที่บรรพชนไทยได้ทำเอาไว้ อย่าให้ใครมากวาดมันทิ้ง ข้ามศพพวกเราไป"


ขณะที่ นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ทนายความของนายสุเทพ ระบุถึงการจดแจ้งจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และอุดมการณ์หลักพรรค 7 ประการว่า เมื่อคสช.อนุญาตจะเคลื่อนไหวรณรงค์เพื่อเผยแพร่อุดมการณ์และแนวทางการเมืองของพรรคต่อไป คาดว่าในเดือนก.ย.นี้ จะมีความพร้อมในการจัดประชุมสัมชชาครั้งแรกของพรรค เพื่อให้สมาชิกพรรคทั้งประเทศลงคะแนนพร้อมกันโดยระบบของพรรค เพื่อเลือกคณะผู้บริหารของพรรค จึงถือว่าเป็นการแสดงถึงระบบประชาธิปไตยของพรรค ซึ่งทุกเรื่องต้องมาจากมติสมาชิกพรรคทั่วประเทศ

เช่นเดียวกับการเลือกสมาชิกพรรคในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองหากได้รับเป็นรัฐบาลส่วนอุดมการณ์ของพรรคนั้น พรรคมีความมุ่งมั่นและปณิธาน เทิดทูนพิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ยึดหลักธรรมาธิปไตย เป็นพรรคการเมืองของประชาชน มุ่งมั่นปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องสร้างความรักชาติและภูมิใจในความเป็นไทย น้อมนำศาสตร์พระราชาเป็นหลักพัฒนาประเทศ และสร้างประเทศให้สิ่งแวดล้อมที่ดีสมดุลยั่งยืน ขณะเดียวกัน ต้องปฏิรูปให้เกิดความสำเร็จ มีทิศทางลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน 

ทั้งนี้ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ตั้งเป้าหมายจะรวบรวมสมาชิกให้ได้ 120,000 คน ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีสมาชิกอย่างน้อย 100 คน โดยจะมีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรคผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนส์ในช่วงต้นเดือนก.ย.นี้ ซึ่งจะเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค 2 ชุด ในคราวเดียวกัน ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่งชุดละ 2 ปี พร้อมทั้งนำนวัตกรรมใหม่ ACT CHAT เพื่อตอบโจทย์เติมเต็มความเป็นพรรคการเมืองของประชาชนอีกด้วย


สุเทพ เทือกสุบรรณ รวมพลังประชาชาติไทย 20180603_Sek_12.jpg

'สุเทพ' หลั่งน้ำตายันไม่ลง ส.ส. เมินเสียงโจมตีตระบัดสัตย์

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศจุดยืนส่วนตัวทั้งน้ำตาต่อที่ประชุมพรรคว่า "นึกถึงผู้เสียชีวิต พี่น้องประชาชนที่เสียสละตัวเองเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน ใฝ่ฝันจะเห็นประเทศที่มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ใฝ่ฝันเห็นประเทศไทย คนไทยทุกเชื้อชาติทุกศาสนา ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข รู้คุณค่า จงรักภักดีต่อแผ่นดิน คนไทยเหล่านั้นได้เสียสละออกเงินส่วนตัว เสียสละความสุขนอนกลางดินกินกลางถนน ถูกยิง ถูกขว้างระเบิด เจ็บเป็นพันคน ตายหลายสิบคน อยากให้พวกเขาเห็นภาพวันนี้ วันที่พวกเรานึกถึงเขาด้วยความเคารพ ความเสียสละ และวันที่คนอย่างพวกเราลุกขึ้นมาประกาศอุดมการณ์ สืบสานปณิธานผู้เสียสละเหล่านั้น แม้จะถูกดูถูกว่าพรรคเพื่อประชาชนไม่มีทางเกิดขึ้นได้"

นายสุเทพ ยืนยันว่า "ผมจะไม่กลับไปเป็น ส.ส.อีกแล้ว ผมไม่ต้องการมีตำแหน่งในทางการเมือง แต่เมื่อพี่น้องร่วมอุดมการณ์มาบอกผมว่าจะต้องตั้งพรรคการเมืองของประชาชน ผมรู้แล้วครับว่าต้องร่วมกับพรรคนี้"

"ผมรู้ว่าผมเป็นจุดอ่อน จุดด้อยของพรรคนี้ให้โดนโจมตี โจมตีว่าผมตระบัดสัตย์ไหนว่าไม่ยุ่งทางการเมือง วันนี้ขอประกาศที่นี่ ผมไม่ใช่คนที่อยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองนี้ แต่ผมจะยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชนผู้มีอุดมการณ์ และผมไม่สนใจคำวิจารณ์ ก็เพราะผมไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งบัญชีรายชื่อ ผมอาสาขอเป็นขี้ข้าประชาชน"
"ผมจะเอาความรู้ประสบการณ์การเป็นนักการเมือง 40 ปี ยืนเคียงข้างพี่น้องร่วมอุดมการณ์ ตั้งพรรคการเมืองพรรคเดียวให้เกิดขึ้นในประเทศนี้ให้ได้"



สุเทพ เทือกสุบรรณ รวมพลังประชาชาติไทย 20180603_Sek_09.jpg

"ทันทีที่ผม ลูกพรรคของเราได้รับอนุญาต คสช. ให้ออกไปปฏิบัติรณรงค์เชิญชวนประชาชนเป็นสมาชิกพรรค ผมจะไปทั่วทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ผมได้นำเงิน 50,000บาทสำหรับสมาชิกผู้ก่อตั้งพรรคมาจ่ายแล้ว ผมยังเก็บรองเท้าคู่นั้น (สวมเดินตอนชุมนุม กปปส.) จะเดินรณรงค์เชิญชวนประชาชนมาเป็นร่วมผู้ร่วมก่อตั้งพรรค" นายสุเทพ ระบุ

นายสุเทพ ระบุว่า "เรายังมีคนที่มีความคิดใหม่ๆ ที่พร้อมร่วมมือกับเราสร้างพรรคการเมืองของประชาชน ที่เรียกว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย จึงไม่ใช่เวทีของกำนันสุเทพ พรรคนี้ไม่ได้อยู่หรือเกิดขึ้นได้เพราะกำนันสุเทพ แต่กำนันสุเทพจะเป็นส่วนหนึ่งพรรคนี้ เหมือนพี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักชาติ รักแผ่นดิน"

ภาพข่าว - เสกสรร โรจนเมธากุล


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง