ต่างประเทศ
แอมเนสตี้ชี้ การแต่งตั้งผอ.ซีไอเอคนใหม่เป็นการสนับสนุนการทรมาน
แดฟนี อีเวียร์ตา ผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงด้านสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกา ออกแถลงถึงกรณีของ จินา แฮสเปล อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ ที่ได้การแต่งตั้งจากรัฐบาลสหรัฐฯให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการซีไอเอ โดยกล่าวว่า
"มากกว่าสิบปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาไม่สามารถรักษาสัจจะ ไม่สามารถทำให้เกิดความโปร่งใส และไม่สามารถเยียวยาเหยื่อจากการถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐทรมาน และบังคับให้สูญหายได้เลย และตอนนี้ สหรัฐยังทำมากไปกว่านั้น วุฒิสภาสหรัฐกลับปูนบำเหน็จเลื่อนตำแหน่งให้กับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่โหดร้ายให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานที่มีอำนาจมากที่สุดของรัฐบาล"
อีเวียร์ตากล่าวต่อไปว่า "เรารู้ตั้งแต่ตอนที่วุฒิสภารายงานเรื่องการทรมานในปี 2557 แล้วว่ามันต้องมีอะไรมากไปกว่า ‘ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง’ จากการสนับสนุนการสอบสวนที่โหดร้ายทารุณของซีไอเอ ซึ่งตอนนี้วุฒิสภาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสนับสนุนความเน่าเฟะของรัฐบาลจากการเลื่อนตำแหน่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความโหดร้ายทารุณนั้นให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง
"การเลื่อนตำแหน่งในครั้งนี้บ่งบอกว่าเราไม่ได้รับบทเรียนอะไรจากนโยบายที่น่าอับอายที่ได้พรากศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เสรีภาพ และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดสิบปีที่ผ่านมานี้เลย
"แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลจะทำงานต่อไปเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้ซีไอเอกลับมาใช้วิธีการทรมาน หรือใช้วิธีการสอบสวนที่ไม่เหมาะสมอีก”
จินา แฮสเปล ได้รับการเสนอชื่อจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA แทนนายไมค์ ปอมเปโอ ที่ถูกดึงตัวไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ แฮสเปลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเธอมีประวัติด่างพร้อยจากการมีส่วนในการบริหาร "Black Sites" หรือคุกลับในไทย จนกระทั่งแฮสเปลขอถอนตัวจากตำแหน่ง แต่นายทรัมป์ก็ยืนยันว่าเธอเหมาะสม เพราะทำงานใน CIA มานานกว่า 30 ปี โดยมีผลงานที่น่าชื่นชมมากมาย
ที่มา แอมเนสตี้ ประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ว่าที่ ผอ.ซีไอเอ เตรียมแจงข้อมูล 'คุกลับ' ไทย
- สื่อนอกแฉ ว่าที่ ผอ.ซีไอเอหญิงคนแรกของสหรัฐฯ เคยดูแล 'คุกลับ' ในไทย
- 'ซ้อมทรมาน' ประวัติศาสตร์ดำมืดของ CIA สหรัฐฯ ที่ยังตกค้างในไทย
