ไม่พบผลการค้นหา
"อนุชา" โวมติโหวตเลือก"ประยุทธ์"เพื่อให้ประเทศเดินหน้า หากตกลงตำแหน่งกับพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ ต้องให้พลเอกประยุทธ์เป็นผู้ตัดสิน

นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาทและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคได้พิจารณาแล้วว่าสามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้ จึงลงมติเลือกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย เป็นมติเพื่อหาทางออกให้กับประเทศชาติ ซึ่งทุกพรรคที่มาร่วมกันทำงาน เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์

ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จำเป็นต้องเป็นรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น นายอนุชา กล่าวว่า จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งจะต้องดูเรื่องของนโยบายเป็นหลัก

เมื่อถามถึงแนวโน้มในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องคาดหวังหลักของประชาชน เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดำเนินการในตอนนี้ รัฐบาลเพิ่งเกิดขึ้นควรคิดเรื่องของการทำให้ประเทศชาติเดินหน้าตามที่ทุกคนคาดหวัง โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์ที่มีแนวคิดในลักษณะนี้

เมื่อถามย้ำว่า มีความกังวลหรือไม่กับการเลือกตั้งครั้งหน้า หากนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ไม่สามารถทำได้ นายอนุชา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พรรคร่วมต้องพูดคุยกัน เพราะทุกคนอยากนำนโยบายของตนเองมาปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม หากในที่สุดไม่สามารถตกลงตำแหน่งกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ ผู้ที่จะเป็นคนตัดสินคือพลเอกประยุทธ์ เพราะมีอำนาจเต็มในการตัดสินใจทั้งหมด

‘พุทธิพงษ์’ ยอมรับดีลเก้าอี้รัฐมนตรีมีเปลี่ยนแปลง

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ขณะนี้รอการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เพื่อที่รอให้นายรัฐมนตรีเป็นผู้ตั้งคณะรัฐมนตรีต่อไป ส่วนการจัดโควต้ารัฐมนตรีหลังจากนี้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะต้องพิจารณาตัวบุคคลที่เหมาะสมไปดำรงตำแหน่งตามที่ได้เคยหารือกันไว้ เพื่อส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง และตามอำนาจของนายกรัฐมนตรีมีสิทธิที่จะต้องพิจารณาด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฯ ต่อไป และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงมองในหลายมิติหากต้องทำงานร่วมกัน 

นายพุทธิพงษ์ ปฏิเสธถึงกระแสข่าวความขัดแย้งภายในพรรค แต่ยอมรับว่าขณะนี้ความคืบหน้าในการพูดคุยเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีส่วนใหญ่เรียบร้อยแล้ว แต่มีบางตำแหน่งที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมต่อไป ยืนยันว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย นอกจากนี้ยังกล่าวถึงเงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่เร็วไปที่จะพูดถึงเรื่องการแก้ไขรับธรรมนูญ เพราะเห็นว่าปัญหาปากท้องของประชาชนน่าจะมีความสำคัญกว่า 

ทั้งนี้ยังกล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย งดออกเสียงในการโหวตนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ว่าเป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นเรื่องของพรรคต้องแก้ไขปัญหากันภายใน แต่ยืนยันจะไม่กระทบโควต้าการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย