ไม่พบผลการค้นหา
'ยากิน' อาจเป็นตัวพลิกสถานการณ์การรับมือโควิด-19 ของโลก

สำนักข่าวรอยรอยเตอร์สรายงานว่า Merck & Co บริษัทผลิตยาจากสหรัฐอเมริกา ทดลองผลิตยา ‘โมลนูพิราเวียร์’ (Molnupiravir) ที่ถูกออกแบบให้ป้อนข้อผิดพลาดเข้าไปในรหัสพันธุกรรมของไวรัส สามารถช่วยลดการป่วยหนักและการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิดกลุ่มเสี่ยงได้ หากผ่านการรับรองตัวยาชนิดนี้จะเป็นยาชนิดแรกแบบรับประทานที่ใช้รักษาโควิด-19

บริษัท Merck ทดลองตัวยาชนิดนี้ในผู้ป่วยโควิด 775 ราย ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง ผลการทดลองพบว่า กลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับมอลนูพิราเวียร์วันละสองครั้ง เป็นเวลาห้าวัน มีเพียงแค่ 7.3% เท่านั้นที่ยังคงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และไม่มีใครเสียชีวิตภายใน 29 วันหลังการรักษา ในขณะที่ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับยาชนิดนี้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 14.1% และมีผู้เสียชีวิต 8 ราย

“การรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่สามารถกินได้ที่บ้านเพื่อลดจำนวนผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาลเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง”

เวนดี้ โฮลแมน ซีอีโอของบริษัท Ridgeback ซึ่งเป็นบริษัทพาร์ทเนอร์ของ Merck กล่าวในแถลงการณ์ นอกจากนี้บริษัทเมอร์คยังระบุว่า มอลนูพิราเวียร์สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาได้ทุกสายพันธุ์ รวมถึง สายพันธุ์เดลตาด้วย


ยากิน = ตัวพลิกกสถานการณ์โควิด-19?

ตัวเลือกการรักษาไวรัสโคโรนาในปัจจุบันที่ใช้อยู่ในหลายประเทศ ได้แก่ ยาต้านไวรัสเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ชนิดฉีดที่ผลิตโดยบริษัท Gilead และยาสเตียรอยด์เดกซาเมทาโซน (Dexamethasone) ซึ่งทั้งสองชนิดนี้จะให้การรักษาเมื่อคนไข้ป่วยหนักถึงขั้นที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้วเท่านั้น

อาเมช อดัลจา นักวิชาการอาวุโสแห่งศูนย์ความมั่นคงด้านสุขภาพ มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ กล่าวว่า ยารักษาที่มีอยู่ตอนนี้ยุ่งยากและมีข้อท้าทายเรื่องการขนส่ง ยาชนิดรับประทานที่สามารถลดความเสี่ยงในการต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจะเป็นตัวพลิกสถานการณ์

“ยาตัวนี้จะเปลี่ยนวิธีการรับมือกับโควิด-19 ทั่วโลก” โรเบิร์ต เดวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Merck กล่าว

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเพิ่มเติมว่า ผลจากการทดลองในระยะที่ 3 ทำให้หุ้นของบริษัท Merck เพิ่มขึ้นมากกว่า 9% เช่นเดียวกันกับหุ้นของบริษัท Atea Pharmaceuticals ซึ่งกำลังพัฒนาวิธีการรักษาโควิด-19 ที่คล้ายกัน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 21% ในทางกลับกัน หุ้นของผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ลดลง โดย Moderna ลดลงมากกว่า 10% ในขณะที่ Pfizer ลดลงน้อยกว่า 1%

ด้านนักวิเคราะห์มองว่า นักลงทุนเชื่อว่าผู้คนจะกลัวโควิดน้อยลงและมีแนวโน้มที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนน้อยลงด้วย หากมียาเม็ดง่ายๆ ที่สามารถรักษาโควิดได้ ด้านบริษัท Merck และพาร์ทเนอร์ให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขากำลังวางแผนขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติการใช้งานตัวยาชนิดนี้แบบฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด รวมทั้งวางแผนเพื่อขออนุมัติการใช้ยาตัวนี้ทั่วโลก


ทั่วโลกตอบรับอย่างไรบ้าง?

รัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาตอบรับต่อเรื่องนี้ว่า โมลนูพิราเวียร์ เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องประชาชนจากโควิด-19 แต่ยังยืนยันว่าการฉีดวัคซีนยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ทางด้านยุโรป  เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา องค์การยาแห่งสหภาพยุโรปก็เพิ่งประชุมกันไปว่าจะทำการตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทเพื่อพิจารณาว่าจะใช้ยาชนิดนี้ในสหภาพยุโรปหรือไม่ ในขณะที่ออสเตรเลียซึ่งกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุดในรัฐวิทอเรียนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดมา นายกรัฐมนตรี Scott Morrison แถลงข่าวบอกกับประชาชน ว่าออสเตรเลียจะสั่งซื้อโมลนูพิราเวียร์สำหรับ 300,000 คน โดยย้ำว่า วัคซีนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่การมีวิธีรักษาทั้งสองแบบจะช่วยให้ออสเตรเลียใช้ชีวิตร่วมกับไวรัสได้

ในเอเชียทั้งไต้หวัน เกาหลีใต้ และประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ก็กำลังเริ่มเจรจาซื้อยาชนิดนี้แล้วเช่นกัน หลังข่าวออกมาเพียงแค่หนึ่งวัน รัฐมนตรีสาธารณสุขของมาเลเซียก็ทวีตว่า ตนเองเริ่มการเจรจาเพื่อนำเข้ายาชนิดนี้มาให้ประชาชนในมาเลเซียแล้ว ส่วนฟิลิปปินส์ที่กำลังทดลองตัวยาชนิดนี้ในประเทศของตัวเอง แม้ยังรอผลการทดลองระยะที่ 3 ภายในประเทศอยู่ แต่รัฐบาลเองก็เริ่มเจรจาสั่งซื้อกับบริษัทแล้วเช่นกัน

ไทยจะตกขบวนโลกไหม?

ด้านประเทศไทย นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยในการแถลงข่าววันที่ 6 ต.ค. 2564 ว่ากรมการแพทย์ได้ติดต่อกับบริษัท MSD ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Merck มาโดยตลอดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นได้เอ่ยตกลงด้วยวาจาว่าต้องการสั่งซื้อมาใช้ในประเทศไทย อย่างไรก็ตามจะต้องรอให้ยาชนิดนี้ได้รับการอนุมัติจากเอฟดีเอสหรัฐฯ ก่อน จากนั้น อย. ของไทยจะพิจารณาอนุมัติอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าอย่างช้าที่สุดจะสามารถนำโมลนูพิราเวียร์เข้ามาเตรียมใช้งานในไทยได้ในเดือนธันวาคมหรือมกราคมปีหน้า


ที่มา: https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/mercks-covid-19-pill-cuts-risk-death-hospitalization-by-50-study-2021-10-01/