ไม่พบผลการค้นหา
เรือใบหืดจับ ไม่ฮอตเหมือนเกมพรีเมียร์ลีก หลังต้องสู้กับจิ้งจอกสยามไปถึงช่วงดวลจุดโทษ เฉือนชนะไปอย่างหวุดหวิด พร้อมตีตั๋วผ่านเข้ารอบตัดเชือกคาราบาว คัพ

ฟุตบอลลีกคัพอังกฤษ หรือ "คาราบาว คัพ" รอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นการพบกันระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ อดีตแชมป์ 3 สมัย เปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของอดีตแชมป์ 4 สมัยอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก ในขณะนี้ 

เกมในครึ่งแรก เป็นฝั่งเรือใบที่ครองบอลและบุกเข้าใส่ได้มากกว่า และเป็นผลในนาทีที่ 26 เมื่อกุนโดกัน กระชากบอลตั้งแต่กลางสนาม ฉีกแนวรับสุนัขจิ้งจอก ไหลทะลุช่องส่งต่อให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา จิ้มระยะเผาขนลอดขา เบน ฮาเมอ เข้าไป ส่งแมนฯซิตี้นำ 1-0 พร้อมจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ 

AP17353795124596.jpg

ครึ่งหลัง รูปเกมเจ้าบ้านยังเป็นรอง ปรับเกมรุก เปลี่ยนกำลังหลักอย่าง เจมี่ วาร์ดี้ กับ ริยาด มาห์เรซ ลงมาแทน อิเฮียนาโช และ อัลไบรท์ตัน 

เกมทำท่าจะจบด้วยชัยชนะของแมนฯซิตี้ 1-0 แต่ในช่วงทดเจ็บ 90+7 จิ้งจอกได้จุดโทษ เมื่อ เกรย์ ไปโดน ไคล์ วอล์คเกอร์ ตัดฟาวล์จนล้ม และ วาร์ดี้ รับหน้าที่มือสังหารเข้าไปไม่เหลือ เสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องดวลกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที 

ช่วงเอ็กซ์ตราไทม์ เจ้าบ้านยังมีแรงฮึดตั้งแต่ยิงประตูตีเสมอได้ แต่ก็ยังจบสกอร์ไม่คม ยังคงเสมอกัน 1-1 เหมือนเดิม ต้องตัดสินกันที่การยิงจุดโทษ 

ปรากฏว่า จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกที่ซัดแม่นกว่า เข้าไปทั้ง 4 คน ขณะที่เลสเตอร์ยิงเข้า 3 คน โดย เจมี่ วาร์ดี้ และ ริยาด มาห์เรซ สองผู้เล่นเลสเตอร์ ยิงไม่เข้าในสองลูกสุดท้าย ทำให้เป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้่เอาชนะไป 4-3 ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศคาราบาวคัพได้สำเร็จ

AP17353828175120.jpg