ไม่พบผลการค้นหา
คืนที่ผ่านมา (23 ก.พ.) เกิดเหตุความไม่สงบหลายจุดใน 'นราธิวาส-ปัตตานี' คนร้าย 'ลอบวางเพลิง-ยิงฐานจนท.' เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในหลายพื้นที่ใน จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาสเมื่อช่วงค่ำวานนีิ้ (23 ก.พ.) โดยมีคนร้ายก่อเหตุวางเพลิงร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกและห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ ในจ.นราธิวาส

ขณะที่ พื้นที่ จ.ปัตตานี คนร้ายก่อเหตุยิงฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่และจุดตรวจทหาร ลอบเผายางหน้าปั้มน้ำมัน

ส่วนวันนี้ (24 ก.พ.) พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เดินทางไปตรวจสอบร้านจำหน่ายปลาสวยงาม เลขที่ 41 ถ.ระแงะมรรคา ต.บางนาค จ.นราธิวาส ซึ่งมีนายชูชาติ ศิลามาศ อายุ 44 ปี เป็นเจ้าของ และร้านติดกันซึ่งจำหน่ายสินค้าราคาถูก ไม่มีเลขที่ มีน.ส.นริมนต์ สังข์สุวรรณ อายุ 42 ปี เป็นผู้เช่า ที่เป็น 1 ใน 2 จุด ที่ถูกคนร้ายลอบก่อเหตุในช่วงคืนที่ผ่านมา จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้ง 2 หลัง

โดยเจ้าหน้าที่แยกย้ายหาหลักฐานในที่เกิดเหตุด้วยความระมัดระวังในการขนย้ายซากสิ่งของต่างๆ ออกจากกัน และขนย้ายไปเก็บไว้ริมถนนด้านนอก เพื่อที่จะหาหลักฐานต่างๆ ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะ จึงจะสามารถสรุปได้ว่าเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ คนร้ายได้ลอบแฝงตัวนำวัตถุระเบิดหรือสิ่งอื่นใดที่เอื้อต่อการเกิดเพลิงไหม้ปะปนแฝงตัวกับประชาชนที่เป็นลูกค้า ไปแอบไว้ในร้านก่อนที่เจ้าของร้านจะปิดกิจการ แล้วได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานที่แน่ชัดคือจุดเพลิงไหม้เกิดจากร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก แล้วได้ลุกลามไปยังร้านจำหน่ายปลาสวยงาม

ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามเสาไฟฟ้า จุดเกิดเหตุทั้ง 2 จุด เพื่อติดตามพฤติกรรมของกลุ่มคนร้าย ซึ่งคาดว่าอย่างน้อยน่าจะมีจำนวน 2 ชุด คือ ชุดที่ 1 ลอบก่อเหตุที่ร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก และชุดที่ 2 ลอบก่อเหตุที่ห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์

อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบหลักฐานเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปตรวจสอบจุดที่ 2 ที่ห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ ต่อไป


ด้านเวบไซต์ "มติชน ออนไลน์" รายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุในหลายพื้นที่ของ จ.ปัตตานี เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 ก.พ. ว่าได้รับรายงานจาก ภาค 9 ว่า เมื่อเวลา 19.35 น. เกิดเหตุคนร้ายเผายางรถยนต์ บริเวณหน้าปั้ม ปตท. บ้านปาลัส ฝั่ง อ.มายอ จ.ปัตตานี ต่อมาเวลา 19.40 น. เกิดเหตุยิงก่อกวนฐาน อส.ตะโล๊ะไกรทอง อ.ไม้แก่น ซึ่งยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ และในเวลาเดียวกัน เกิดเหตุยิงใส่จุดตรวจกะลาพอ อ.สายบุรี เป็นลักษณะยิงก่อกวน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีทรัพย์สินเสียหาย 

เวลา 19.40 น. เกิดเหตุยิงใส่จุดตรวจมะนังดาลำ อ.สายบุรี เป็นลักษณะยิงก่อกวนไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีทรัพย์สินเสียหาย เวลา 20.10 น. เกิดเหตุยิงใส่จุดตรวจทหาร บริเวณ บ้านดี อ.เมือง เป็นลักษณะยิงก่อกวน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีทรัพย์สินเสียหายเวลา 20.25 น. พบวัตถุต้องสงสัย ถ.ปากน้ำ ซอย 2 (แวมิง) ถ.ปากน้ำปัตตานี ใกล้โกดังเก็บของ เวลา 20.30 น. มีเสียงดังคล้ายระเบิดในพื้นที่ เมืองปัตตานี โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจที่เกิดเหตุเพื่อพิสูจน์ทราบและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด โดยบูรณาการกำลังผู้ปฏิบัติร่วมกับฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบว่ามีการเชื่อมโยงกับกลุ่มใดเหตุการณ์ใดหรือไม่ เพื่อเร่งรัดจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยเน้นไปที่การป้องกันการเกิดอาชญากรรมเป็นหลัก หากเกิดเหตุแล้วต้องสามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอาชญากรรม เพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว หรือ สถานที่สำคัญ ที่อาจเป็นเป้าหมาย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ ตลอดจนเพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และชุมชน รวมทั้งให้ยึดมั่นในการบังคับใช้กฎหมาย ตามพยานหลักฐาน พยานบุคคล พยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมา สอบสวน ซักถาม ขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมาย