ไม่พบผลการค้นหา
ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต ออกประกาศเตือนประชาชนริมแม่น้ำโขง ระวังน้ำโขงเพิ่มระดับเอ่อล้นท่วมที่ลุ่มริมตลิ่ง คาดน้ำแม่น้ำยมเข้าศรีสัชนาลัย สูงสุดวันที่ 22 ส.ค.นี้ แจ้งหน่วยงานเกี่ยวข้องระบายน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนแก่งกระจาน

นายสำเริง แสงภู่วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต ออกประกาศ ฉบับที่ 7/2561 เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 19 ส.ค. ระบุถึงสถานการณ์น้ำเนื่องจากผลกระทบพายุเบบินคา ว่าตามที่พายุเบบินคาได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ และเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมประเทศเมียนมาแล้ว แต่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้มีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จ.บึงกาฬ จ.สกลนคร จ.มุกดาหารจ.นครพนม จ.กาญจนบุรี จ.จันทบุรี จ.ตราด จ.เพชรบุรี และจงประจวบคีรีขันธ์

ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง มีระดับน้ำสูงขึ้น ตั้งแต่จ.เชียงราย จ.เลย จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อุบลราชธานี จะมีผลทำให้ลำน้ำสาขาที่ไหลลงแม่น้ำโขงมีระดับน้ำเอ่อล้นท่วมที่ลุ่มริมตลิ่ง

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม มีระดับน้ำสูงขึ้น ตั้งแต่จ.แพร่ จ.สุโขทัย โดยจะมีระดับน้ำสูงสุดใน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ในวันที่ 22 ส.ค. 2561 อาจเกิดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งต้องเฝ้าระวัง

สำหรับเขื่อนที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วงวันที่ 23-27 ส.ค. 2561 ต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนมากขึ้น จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแม่กลองมีระดับน้ำเอ่นล้นตลิ่ง โดยเฉพาะบริเวณ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

เขื่อนแก่งกระจาน ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีน้ำไหลล้นทางระบายน้ำของเขื่อนมากขึ้น ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี มีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำตั้งแต่อ.แก่งกระจาน อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี โดยคาดการณ์ว่าที่อ.เมืองเพชรบุรี ระดับน้ำอาจสูงกว่าตลิ่งตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. นี้

ดังนั้น จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวัง และติดตามสภาพสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่มีอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ตรวจสอบความมั่นคงของอาคารพร้อมกับประสานจังหวัดและประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้รับทราบต่อไปด้วย


หนองคายน้ำโขงเพิ่มระดับสูงสุดรอบปี

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.หนองคาย ระบุว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่าน จ.หนองคาย ยังขึ้นอย่างต่อเนื่องทำสถิติสูงสุดในรอบปี 2561 อีกครั้ง ล่าสุด (เวลา 19.00 น. วันที่ 19 ส.ค.) วัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 12.46 เมตร เพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อเช้านี้ (06.00 น.) ถึง 55 เซนติเมตร (ซม.) สูงเกินตลิ่งไม่ไปถึง 26 ซม. และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก เนื่องจากมวลน้ำจากตอนเหนือยังไหลมาถึงจังหวัดหนองคายอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ น้ำโขงที่สูงได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรเพิ่มมากขึ้น ในเขต อ.ศรีเชียงใหม่ น้ำโขงได้หนุนเข้าตามท่อระบายน้ำ ซึมตามรอยแยกและรอยต่อของเขื่อนป้องกันตลิ่งผุดขึ้นมาท่วมถนนสายหลักและถนนตามซอยหลายสาย ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันกรอกกระสอบทรายแล้วนำไปอุดตามท่อ ตามรอยแยกและรอยต่อที่น้ำซึมเข้ามา แต่ไม่ค่อยเป็นผลมากนัก เนื่องจากมีรอยแยกและรอยต่อยาวตลอดแนวเขื่อนป้องกันตลิ่งแม่น้ำโขง ส่วนชาวบ้านก็ช่วยกันกรอกกระสอบทรายเพื่อใช้ป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของตนเอง ส่วนโป๊ะแพที่อยู่ในแม่น้ำโขงก็ได้มีการปรับยึดให้แน่นหนาขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรถึงน้ำท่วมอีกในหลายอำเภอที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง เริ่มตั้งแต่ อ.สังคม , อ.ศรีเชียงใหม่ , อ.เมือง และอ.โพนพิสัย จ.หนองคาย

นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมืองหนองคาย ในฐานะรักษาราชการแทนปลัดจังหวัดหนองคาย ได้ออกตรวจเยี่ยมการป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตตำบลปะโค อ.เมือง โดยได้สั่งการให้มีการอุดท่อระบายน้ำพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกจากหมู่บ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำหนองคาย เข้าร่วมช่วยเหลือและขนย้ายสิ่งของช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งมีการจัดเตรียมเรือไว้เพื่อช่วยขนย้ายผู้ป่วยติดเตียงไปยังที่ปลอดภัยทันทีที่ได้รับการร้องขอ ในส่วนของประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งและใกล้กับตลิ่งแม่น้ำโขงก็ได้ออกมาติดตามสถานการณ์น้ำโขงขึ้นตลอดทั้งวัน

ด้านนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ทางจังหวัดหนองคายมีการแจ้งเตือนประชาชนได้รับทราบสถานการณ์น้ำโขงล่วงหน้า และได้มีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าช่วยเหลือประชาชนทันที เริ่มตั้งแต่การขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง แม้ว่าจะมีผลกระทบจากน้ำโขงเอ่อท่วมอยู่บ้าง แต่จากการที่มีการประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้าทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และคาดหวังว่าอีกสักระยะระดับน้ำก็คงจะเริ่มลดลง


แพร่เตือนประชาชนริมแม่น้ำยมขนของขึ้นที่สูง

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมที่มีระดับเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากอิทธิพลของพายุเบบินคา ร่วมกับ นายวัฒนา สาคร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับรายงานว่า น้ำในแม่น้ำยมที่สถานีอุกวิทยา Y20 บ้านห้วยสัก ต.เตาปูน อ.สอง เริ่มลดระดับลงแล้ว ระดับน้ำอยู่ที่ 8.55 เมตร (เวลา 11.00 น. วันที่ 19 ส.ค.) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,107 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยปริมาณน้ำดังกล่าวจะเคลื่อนผ่านมาถึงสถานีอุกวิทยา Y1C บ้านน้ำโค้ง ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ ซึ่งมีระยะห่างประมาณ 91 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 10 – 15 เซนติเมตร ระดับน้ำอยู่ที่ 5.54 เมตร ปริมาณ 589.80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ห่างจากระดับวิกฤตคือ 8.20 เมตร ปริมาณน้ำ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ขณะที่ นายอ.สอง อ.หนองม่วงไข่ และอ.เมืองแพร่ ได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำยมให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงแล้ว และมีรายงานว่าน้ำได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรไร่ข้าวโพดในอ.สองและอ.หนองม่วงไข่บางส่วน และเทศบาลเมืองแพร่ได้เตรียมปิดกั้นประตูระบายน้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่บริเวณประตูศรีชุม หน้าศาลจังหวัดแพร่ และวางกระสอบทรายตามจุดต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากแม่น้ำยมไหลย้อนเข้าท่อระบายน้ำส่งผลกระทบกับพื้นที่สำคัญในเขตเทศบาลเมืองแพร่

พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ฯ โดยมอบหมายให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่เป็นผู้ประสานงาน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเพื่อช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ 054 – 533 680 หรือสายด่วนนิรภัย 1784


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :