ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าหน้าที่ของอิหร่านแถลงในวันพุธที่ผ่านมา (26 ต.ค.) ว่า เกิดเหตุก่อการร้ายที่มัสยิดในเมืองชีราสซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิงและเด็กด้วย

รัฐอิสลาม หรือกลุ่มไอเอส ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบเหนือการโจมตีครั้งนี้ ในขณะที่รัฐบาลอิหร่านกล่าวว่า จับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว 2 คน โดยมีคนร้ายอีกรายกำลังอยู่ระหว่างการหลบหนี

การโจมตีที่มัสยิดชาฮ์ เชอรักฮ์ ซึ่งเป็นมัสยิดของนิกายชีอะห์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในอิหร่าน เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่กองกำลังความมั่นคงของอิหร่านเปิดการโจมตีผู้ชุมนุมที่มารวมตัวกัน ณ หลุมศพของ มาฮ์ซา อามินี

กลุ่มไอเอสรายงานเกี่ยวกับการโจมตีผ่านสำนักข่าวของตน โดยกล่าวว่านักรบติดอาวุธของทางกลุ่มเปิดการโจมตีที่ศาสนสถาน และคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 20 ชีวิต

ทัสนิม สำนักข่าวในเครือรัฐบาลของอิหร่านรายงานว่า ศพแรกในการโจมตีครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของมัสยิด ก่อนที่จะถูกมุงโดยผู้คนในมัสยิด ซึ่งถูกยิงในเวลาต่อมา

“อาชญากรรมในครั้งนี้จะไม่ถูกเพิกเฉย เจ้าหน้าที่ความมั่นคงและกฎหมายจะสั่งสอนคนที่ออกแบบและก่อการโจมตีในครั้งนี้” เอบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีของอิหร่านกล่าว

สื่อของอิหร่านได้กล่าวโทษกลุ่ม “ทัคฟีริส” ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มมุสลิมซุนนีที่มีความคิดสุดโต่ง เช่นกลุ่มไอเอส ทั้งนี้อิหร่านเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมชีอะห์เป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างนิกายดังเช่นที่เกิดขึ้นในอิรักและอัฟกานิสถาน


ที่มา:

https://www.dw.com/en/iran-islamic-state-claims-deadly-attack-on-shiite-shrine/a-63569087?fbclid=IwAR3rFW4Em4zpUx875jyFSlNhYYOGqoDDR3aOQ7O2-fvRhGEmV98Q3LH1sNY