ไม่พบผลการค้นหา
กมธ. ผลักดันยาแรง เสนอ ตัดสิทธิคนไม่ไปเลือกตั้งรับราชการในกฎหมาย ก.ม.เลือกตั้งส.ส.

ความคืบหน้าในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ว่า มีหลายประเด็นที่หารือกันเบื้องต้น อาทิ การตัดสิทธิคนที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น ในฉบับของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)กำหนดว่า หากไม่ไปใช้สิทธิจะถูกตัดสิทธิ 3 ข้อ ได้แก่ 1.สิทธิในการยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง 2.สิทธิลงสมัครส.ส. ส.ว. และ3.สิทธิลงสมัครกำนันผู้ใหญ่บ้าน

วันที่ 18 ธ.ค. ที่โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กล่างว่า กรรมาธิการฯ เห็นด้วยทุกข้อ แต่มีการเสนอเพิ่มเติม เช่น ถ้าไม่ไปใช้สิทธิจะถูกตัดสิทธิไม่ให้รับราชการ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เพราะเพียงแค่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งเดียวจะถูกตัดสิทธิการเข้าสู่อาชีพบางอาชีพ ดังนั้น จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะอาจเกิดปัญหาใหม่ขึ้นได้

นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรรมาธิการฯ ยังพูดคุยกันเรื่องวิธีการนับอายุการถูกตัดสิทธิ 2 ปีว่าควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งมีความเห็นที่หลากหลาย มีทั้งให้นับต่อเนื่อง เช่น เมื่อไม่มาใช้สิทธิเลือกตั้งจะถูกตัดสิทธิ 2 ปี และหากไม่มาใช้สิทธิอีกครั้งในการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ก็จะบวกเพิ่มอีก 2 ปีรวมเป็น 4 ปี แต่ก็มีกรรมาธิการฯ บางส่วนเห็นว่า ไม่ควรนำมาคิดรวมกันกับการตัดสิทธิ 2 ปีแรก เป็นต้น

ส่วนข้อเสนอของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ให้ส.ส.ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยไม่สังกัดพรรคการเมือง นั้น  ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้หารือจบไปตั้งแต่ก่อนที่จะมีการร่างรัฐธรรมนูญแล้ว การเสนอช่วงนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เหมือนเสนอนอกกติกา เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่าผู้สมัครส.ส.ต้องสังกัดพรรค แต่อยู่ๆ ก็มาเสนอให้ลงสมัครแบบอิสระ แล้วจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะต้องแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งการทำเช่นนั้นจะมีเรื่องลึกลับซับซ้อนและมีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุตรงนั้นตรงนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ดี

นายทวีศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนข้อเสนอให้มีการแก้ไขบทเฉพาะกาลของร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.เพื่อแก้ไขปัญหาพรรคการเมืองปรับปรุงข้อมูลสมาชิกพรรคไม่ทันตามกรอบเวลาที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดไว้นั้น คงไม่สามารถนำมาเชื่อมโยงกันได้ เพราะในบทเฉพาะกาลของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดว่า เมื่อกฎหมายเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ ภายใน 90 วันจะต้องตราพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเลือกตั้ง และจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 150 วัน เงื่อนไขเวลาที่กำหนดให้พรรคการเมืองต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง ขึ้นอยู่กับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ มีเวลาในการพิจารณาถึงวันที่ 26 ม.ค. 2561.