ไม่พบผลการค้นหา
กรุงเทพมหานคร เตรียมพร้อมให้ความรู้ประชาชนในการรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นช่วง 6-11 ม.ค. นี้

นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. เปิดเผยถึงว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศช่วงวันที่ 6-11 ม.ค. ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีลมอ่อน หรือสงบในช่วงเช้า อาจส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้น กรุงเทพมหานคร โดยสำนักสิ่งแวดล้อมได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง" รวมทั้งเตรียมความพร้อมตามแผนปฏิบัติการเพื่อรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงวิกฤตอย่างต่อเนื่อง 

โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ ได้แก่ เข้มงวดการตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำทุกประเภทร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ การประสานงานกับสถานีตำรวจในพื้นที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้คล่องตัว เป็นต้น 

นอกจากนี้ ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุม กำกับดูแล และแก้ไขปัญหาแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองจากยานพาหนะ เช่น รณรงค์ไม่ขับ...ช่วยดับเครื่องและบำรุงรักษาเครื่องยนต์รถราชการในสังกัดไม่ให้ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐาน ประชาสัมพันธ์การบำรุงรักษารถเพื่อลดมลพิษแก่ผู้ประกอบการขนส่งและประชาชน การห้ามเผาขยะและเผาในที่โล่งทุกชนิดตามประกาศกรุงเทพมหานคร 

เรื่อง กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ การคุมเข้มปัญหาฝุ่นละอองจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าและการก่อสร้างอาคารตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองสะสมในอากาศและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน รวมทั้งเมื่อฝุ่นละอองมีค่าเกินมาตรฐานได้มีการประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามภารกิจ ภายใต้แผนประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพมหานครอีกด้วย ด้านการประชาสัมพันธ์ ได้เชื่อมโยงข้อมูลผลการตรวจวัดฝุ่นละอองให้สำนักอนามัย สำนักการแพทย์และสำนักงานประชาสัมพันธ์ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักให้ประชาชนป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM2.5 เมื่อมีค่าเกินมาตรฐานและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ผ่านทางสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

เตรียมพร้อมแพทย์ พยาบาลดูแลประชาชนจากภาวะฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน

นายชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. เปิดเผยว่า สำนักอนามัย ได้เตรียมรณรงค์สร้างความตระหนักให้แก่ประชาชนในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM2.5 รวมทั้งการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขของ กทม. เพื่อให้บริการประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 

โดยมอบหมายให้กองควบคุมโรคติดต่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและระวังอันตรายจากภาวะฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด ตามแนวทางการดำเนินการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) และขอความร่วมมือศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 68 แห่ง ดำเนินการดังนี้ ในสถานการณ์ปกติ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) อยู่ในระดับไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ให้ความรู้ในการป้องกัน และดูแลตนเองจากภัยหรืออันตรายที่เกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) แก่ประชาชนในพื้นที่ 

เฝ้าระวังติดตามเป็นพิเศษในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง เด็ก ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด และหญิงตั้งครรภ์  ในสถานการณ์ที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เกินมาตรฐานมากกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ให้ความรู้และเฝ้าระวังแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยบุคลากรของศูนย์บริการสาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุข เมื่อค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) อยู่ในระดับ 50 - 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 

ออกหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ และติดตามเยี่ยมผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เมื่อค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) อยู่ในระดับ 76 - 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดต่อกัน 3 วัน ทั้งนี้สำนักอนามัยได้การดำเนินงานตามแผนดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อให้บรรเทาความรุนแรงของปัญหา รวมทั้งให้ประชาชนได้รู้จักดูแลตนเองหากเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้น