ไม่พบผลการค้นหา
สมเด็จพระจักรพรรดินะรุฮิโตะทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการในฐานะประมุขของประเทศญี่ปุ่น

สมเด็จพระจักรพรรดินะรุฮิโตะเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกฐานะประมุขของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในวันนี้ (22 ต.ค.2562) ตามราชพิธีโบราณของญี่ปุ่น

พระราชพิธีดังกล่าวประกอบไปด้วยสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ และพระญาติใกล้ชิดเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว นอกจากนี้สมเด็จพระจักรพรรดิยังมีพระราชดำรัสว่า

"ข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตนตามรัฐธรรมนูญและปฏิบัติราชกรณียกิจในฐานะประมุขของรัฐ และการเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนญี่ปุ่น ขณะเดียวกันฉันก็ปรารถนาที่จะนำมาซึ่งความสุขของประชาชนและสันติภาพของโลก จะคำนึงถึงและจะยืนเคียงข้างประชาชน"





000_1LM63Q.jpg

ทั้งนี้ ในพระราชพิธีดังกล่าวมีเชื้อพระวงศ์และบรรดาประมุขและผู้นำจาก 180 ประเทศ รวมกว่า 400 คน เข้าร่วมถวายพระพร รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยด้วยเช่นกัน





000_1LM6GY.jpg

ส่วนค่าใช้จ่ายในงานพระราชพิธีดังกล่าวมีการประเมินว่าใข้งบประมาณทั้งสอ้น 16,300 ล้านเยน เป็ยงบประมาณสำหรับต้อนรับแขกที่มาร่วมงานในครั้งนี้ มีมูลค่า 4,100 ล้านเยน หรือประมาณ 1,148 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่เคยใช้ในการจัดพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะเมื่อปี 1990 แม้ว่าจะมีแขกในงานลดลงเมื่อเทียบกับพระราชพิธีครั้งก่อน

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดลดลงไปถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณที่สำนักพระราชวังเสนอมาก่อนหน้านี้ โดยลดค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ ลงมากกว่าครึ่ง เช่น งบประมาณด้านการรักษาความปลอดภัยลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จาก 3.8 พันล้านเยน เหลือเพียง 1.5 พันล้านเยนเท่านั้น

สมเด็จพระจักรพรรดินะรุฮิโตะเสด็จขึ้นครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะทรงสละราชสมบัติเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งเป็นการสละราชสมบัติครั้งแรกในรอบ 200 ปีของราชวงศ์ญี่ปุ่น ส่วนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจัดขึ้นตามกำหนดเดิมวันนี้ (22 ต.ค.2562)

ส่วนขบวนเสด็จเพื่อทรงทักทายประชาชนของสมเด็จพระจักรพรรดิและจักรพรรดินีถูกเลื่อนจาก 22 ต.ค.ไปเป็นวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เนื่องจากเมื่อต้นเดือน ต.ค.เพิ่งเกิดเหตุพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นฮากิบิสซัดถล่มญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิต 77 ราย และบาดเจ็บอีกหลายราย สำนักพระราชวังจึงประกาศเลื่อนพิธีดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อไว้อาลัย และเปิดโอกาสให้เหล่าพสกนิกรได้ใช้เวลาตระเตรียมความพร้อมก่อนรอรับเสด็จ

ที่มา: The Guardian/ Japan Times

ข่าวที่เกี่ยวข้อง