ไม่พบผลการค้นหา
ศาลพิพากษาแกนนำ กปปส. 3 รมต.ไม่รอดหลุดเก้าอี้ ด้าน 'ไพบูลย์' ศาลให้โอกาส 'ทยา' รอลงอาญา 2 ปี

ศาลอาญาพิพากษาคดีที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือ กปปส.กับพวกรวม 39 คน ในคดีชุมนุมเมื่อปี 2557 แต่ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ผู้ต้องหาที่ 11 ได้เสียชีวิตแล้วจึงเหลือ 38 คน

โดยมีข้อหาการกระทำความผิดอย่างน้อย 9 ข้อหา ทั้งร่วมกันกบฏ, กระทำให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้สั่งการ, ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน , ร่วมกันบุกรุก, สนับสนุนกบฏ, ขัดขวางการเลือกตั้งฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 117, 209, 210, 215, 216, 362, 364, 365, และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ หรือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. ปี 2550 มาตรา 76, 152

ในจำเลย 39 คนมีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี 3 คนได้แก่ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ล่าสุดศาลมีคำพิพากษาดังนี้

จำเลยที่ 1 สุเทพ เทือกสุบรรณ จำคุก 5 ปี

จำเลยที่ 3 ชุมพล จุลใส จำคุก 9 ปี 24 เดือน

จำเลยที่ 4 พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จำคุก 7 ปี

จำเลยที่ 5. อิสสระ สมชัย จำคุก 7 ปี 16 เดือน

จำเลยที่ 6.วิทยา แก้วภราดัย จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 รอลงอาญา 2 ปี

จำเลยที่ 7 ถาวร เสนเนียม จำคุก 5 ปี

จำเลยที่ 8 ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ จำคุก 6 ปี 16 เดือน

จำเลยที่ 9 เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2 ปี

จำเลยที่ 10 อัญชะลี ไพรีรัก จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2ปี

จำเลยที่ 11พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ (เสียชีวิต)

จำเลยที่ 12 สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2ปี

จำเลยที่ 14 ถนอม อ่อนเกตุพล จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2ปี

จำเลยที่15 สมศักดิ์ โกศัยสุข จำคุก 3ปี

จำเลยที่16 สุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ จำคุก4ปี8เดือน

จำเลยที่17 สาธิต เซกัลป์ จำคุก2ปีปรับ 26,666 บาท รอลงอาญา 2ปี

จำเลยที่ 19 พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี จำคุก1ปีปรับ13,333บาท รอลงอาญา 2ปี

จำเลยที่20 พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ จำคุก 1 ปีปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2ปี

จำเลยที่24.เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ จำคุก4ปี 16 เดือน

จำเลยที่ 25 มั่นแม่น กะการดี จำคุก 1 ปีปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2ปี

จำเลยที่26 คมสัน ทองศิริ จำคุก2ปี 

จำเลยที่29 สาวิทย์ แก้วหวาน จำคุก2ปี

จำเลยที่30 สุริยะใส กตะศิลา จำคุก2ปี

จำเลยที่33 สำราญ รอดเพชร จำคุก2ปี16 เดือน

จำเลยที่34 อมร อมรรัตนานนท์ จำคุก20เดือน

จำเลยที่35 พิเชษฐ พัฒนโชติ จำคุก 1 ปีปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2ปี

จำเลยที่37 กิตติชัย ใสสะอาด จำคุก 4 เดือนปรับ 6,666 บาท รอลงอาญา 2ปี

จำเลยที่ 38 ทยา ทีปสุวรรณ จำคุก 1 ปี 8 เดือนปรับ 26,666 บาท รอลงอาญา 2ปี

โดยจำเลยทั้ง 12 คนที่รอลงอาญานั้น ศาลให้เหตุผลว่า บางคนเป็นเพียงผู้ร่วมชุมนุมเท่านั้น แม้บางคนจะเป็นแกนนำในการชุมนุมด้วยก็ตาม แต่ความผิดที่จำเลยแต่ละคนกระทำนั้นน้อยกว่าจำเลยอื่นอีก ทั้งไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์อุกอาจหรือรุนแรงจากการชุมนุม ประกอบกับไม่ปรากฏว่าจำเลยดังกล่าวเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยดังกล่าวกลับตัวเป็นพลเมืองดี นอกจากนี้ ยังให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยที่ 3,5,8,16,24,33,38 มีกำหนดคนละ5ปี และให้นับโทษของจำเลยที่ 15,25,30 ต่อจากโทษตามท้ายฟ้องด้วย

ขณะที่ศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลย 12 คน ประกอบด้วย

จำเลยที่ 2 สาทิตย์ วงศ์หนองเตย  

จำเลยที่13 ยศศักดิ์ โกไศยกานนท์

 จำเลยที่18 รังสิมา รอดรัศมี

จำเลยที่21 แก้วสรร อติโพธิ

จำเลยที่22 ไพบูลย์ นิติตะวัน

จำเลยที่23 ถวิล เปลี่ยนศรี

จำเลยที่27 พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์  

จำเลยที่28 พิภพ ธงไชย 

จำเลยที่31 สุริยันต์ ทองหนูเอียด

จำเลยที่32 พ.ต.ท.ภัทรพงศ์ สุปิยะพาณิชย์  

จำเลยที่36 สมบูรณ์ ทองบุราณ

จำเลยที่39 เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

ต่อมาพวกจำเลยที่ถูกพิพากษาลงโทษไม่รอลงอาญา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์กรมธรรม์ประกันอิสรภาพ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยศาลพิเคราะห์คำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้ว อนุญาตให้ประกันตัว สมศักดิ์ จำเลยที่ 15 , คมสัน จำเลยที่ 26, สาวิทย์ จำเลยที่ 29 , สุริยะใส จำเลยที่ 30 , สำราญ จำเลยที่ 33 , อมร จำเลยที่ 34 โดยตีราคาประกันคนละ 6 แสนบาท

ส่วน สุเทพ จำเลยที่ 1, ชุมพล จำเลยที่ 3, พุทธิพงษ์ จำเลยที่ 4, อิสสระ จำเลยที่ 5 , นายถาวร จำเลยที่ 7 , นายณัฏฐพล จำเลยที่ 8 , สุวิทย์ จำเลยที่ 16 , ร.ต.แซมดิน จำเลยที่ 24 ศาลอาญาเห็นควรให้ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป วันนี้นายสุเทพกับพวกจำเลยรวม 8 คน จึงต้องถูกควบคุมตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อน ระหว่างรอคำสั่งศาลอุทธรณ์


กางกฎหมายหลุดรัฐมนตรี

ทั้งนี้จากคำพิพากษาทำให้รัฐมนนตรีทั้ง 3 คน มีผลหลุดตำแหน่งทันที ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 160 บัญญัติไว้ว่า รัฐมนตรีต้อง (1) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด (2) มีอายุไม่ต่ํากว่าสามสิบห้าปี (3) สําเร็จการศึกษาไม่ต่ํากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า(4) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์(5) ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

(6) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 (7) ไม่เป็นผู้ต้องคําพิพากษาให้จําคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทําโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท (8) ไม่เป็นผู้เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะเหตุกระทําการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 186 หรือมาตรา 187 มาแล้วยังไม่ถึงสองปีนับถึงวันแต่งตั้ง