กลุ่มประเทศอาหรับที่นำโดยแอลจีเรีย ลงมติระบหลักการร่างมติดังกล่าวเมื่อวันอังคาร (20 ก.พ.) ด้วยความคาดหวังว่าร่างมติดังกล่าวอาจจะไม่ผ่านการรับรอง หลังจากที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรสำคัญของอิสราเอล ออกมากล่าวเตือนว่าพวกเขาจะไม่สนับสนุนร่างข้อมติดังกล่าว และสหรัฐฯ จะเสนอร่างข้อมติจากตัวเองแทน

สหรัฐฯ เป็นประเทศเดียวที่ลงมติยับยั้งร่างมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในทันทีในฉนวนกาซา ในขณะที่สหราชอาณาจักรลงมติงดออกเสียง พร้อมกันนี้ ประเทศสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอีก 13 ประเทศได้ลงมติเห็นชอบ เพื่อเรียกร้องให้มีการยุติสงครามในฉนวนกาซาที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 29,000 ราย ตามการรายงานของทางการปาเลสไตน์ และทำให้มีประชากรมากกว่า 80% ต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่น

ในการรับร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จะต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบอย่างน้อย 9 เสียง และจะต้องไม่มีการลงมติยับยั้งจากสมาชิกถาวรชาติใดชาติหนึ่งจากทั้งหมด 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส รัสเซีย หรือจีน

ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า สหรัฐฯ ทำการยับยั้งร่างมติดังกล่าวที่เสนอโดยแอลจีเรีย เนื่องจากความกังวลว่าร่างมติดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ อียิปต์ อิสราเอล และกาตาร์ ที่ต้องการจะยุติสงครามชั่วคราว และอำนวยให้มีการปล่อยตัวประกันที่ถูกจับไปโดยกลุ่มฮามาส

โธมัส-กรีนฟิลด์กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า การลงมติยับยั้งของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ เป็นความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะปกปิดการบุกรุกภาคพื้นดินของอิสราเอลที่ใกล้เข้ามาในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้สุดของฉนวนกาซา ซึ่งผู้ปัจจุบันนี้มีผู้พลัดถิ่นราว 1.4 ล้านคนกำลังหลบภัยอยู่

ในการเสนอมติเมื่อวันอังคาร อามาร์ เบนด์จามา เอกอัครราชทูตแอลจีเรียประจำสหประชาชาติกล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ “ไม่สามารถนิ่งเฉยได้” เมื่อเผชิญกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในฉนวนกาซา และความเงียบนั้น “ไม่ใช่ทางเลือกที่ใช้การได้”

“มตินี้เป็นจุดยืนเพื่อความจริงและมนุษยชาติ ยืนหยัดต่อต้านผู้สนับสนุนการฆาตกรรมและความเกลียดชัง” เบนด์จามากล่าว “การลงคะแนนเสียงต่อต้านแสดงถึงการรับรองความรุนแรงอันโหดร้ายและการลงโทษโดยรวมที่เกิดขึ้นกับพวกเขา (ชาวปาเลสไตน์)”

แอลจีเรีย ซึ่งเป็นชาติอาหรับ และปัจจุบันเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแบบไม่ถาวร ได้เสนอร่างข้อมติเบื้องต้นเมื่อกว่า 2 สัปดาห์ก่อนการพิจารณาในครั้งนี้

ทั้งนี้ สหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ (19 ก.พ.) ว่า พวกเขาได้เสนอร่างมติคู่ขนานเรียกร้องให้มีการหยุดยิงชั่วคราวและต่อต้านการโจมตีภาคพื้นดินครั้งใหญ่โดยอิสราเอลในเมืองราฟาห์

อย่างไรก็ดีจนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ แสดงออกถึงความไม่ปราถนาในการใช้คำว่า “หยุดยิง” ในการดำเนินการใดๆ ก็ตามของสหประชาชาติเกี่ยวกับสงครามในฉนวนกาซา โดยร่างมติของสหรัฐฯ ที่เสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคง “เน้นย้ำการสนับสนุนการหยุดยิงชั่วคราวในฉนวนกาซาโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยอิงตามหลักการการปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมด และเรียกร้องให้กำจัดอุปสรรคทั้งหมดในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในวงกว้าง”

ร่างมติของสหรัฐฯ ยังเตือนอิสราเอลว่าอย่าเปิดการโจมตีภาคพื้นดินในราฟาห์ โดยสหรัฐฯ กล่าวว่า “คณะมนตรีความมั่นคงควรเน้นย้ำว่าการโจมตีภาคพื้นดินครั้งใหญ่ดังกล่าวไม่ควรดำเนินการภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน”

มติที่ร่างโดยแอลจีเรีย ซึ่งถูกสหรัฐฯ มติยับยั้งไป มีการเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม "ทันที" ตามคำสั่งชั่วคราวของเดือนที่แล้วที่ออกโดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้อิสราเอลต้องใช้มาตรการเพื่อป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา นอกจากนี้ ร่างมติดังกล่าวยังเรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สหรัฐฯ พยายามปกป้องอิสราเอลจากการคัดค้านใดๆ ของสหประชาชาติ และก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ยับยั้งมติของคณะมนตรีความมั่นคงอีก 2 มตินับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา

ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2024/2/20/us-vetoes-another-un-security-council-resolution-urging-gaza-war-ceasefire?fbclid=IwAR0Cc6zqELDId3DfW5-3NwWzJazpCDklfcF35uXm9io-AZEptWXOvGf67Ug