โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ (4 ก.ค.) ว่า สหรัฐฯกำลังเดินอยู่บนเส้นทางแห่งชัยชนะในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19

“พวกเราทำได้ดีกว่าทุกๆ ประเทศที่เคยทำมาในประวัติศาสตร์...หลังจากที่สหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติด้านโรคระบาดจากจีน และตอนนี้การต่อสู้ของเราใกล้จะพบทางออกแล้ว” ปธน.ทรัมป์กล่าว

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวย้ำในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า หากสหรัฐฯ ไม่มีการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แต่ก็ประสบความเร็จ แม้สหรัฐฯ อาจจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นก็ตาม ส่วนจำนวนผู้และเสียชีวิตอัตราการเสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยช่วงกลางสัปดาห์ จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 50,000 รายภายใน 24 ช.ม. เป็นเวลาติดต่อกันถึง 3 วัน และเมื่อวันที่ 4 ก.ค. มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 44,839 ราย ทำให้สหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อสะสมถึง 2,935,427 ราย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมมีทั้งสิ้น 132,313 ราย

ด้านรัฐฟลอริดาและเท็กซัสเป็น 2 รัฐที่มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด โดยฟลอริดามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 11,445 รายและในเท็กซัสมีผู้ติดเชื้อ 8,258 รายภายใน 24 ช.ม.

ปัจจุบัน โรงพยาบาลในเท็กซัสมีผู้ป่วยรักษาอยู่เกือบ 192,000 ราย ซึ่งโรงพยาบาลในเมืองสตาร์และไฮดัลโกในเท็กซัสไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้อีก ทางด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมืองจึงได้ขอความร่วมมือประชาชนให้อาศัยอยู่ในที่พักและเตือนให้หลีกเลี่ยงการรวมตัวทางสังคม

นอกจากนี้ในเท็กซัสยังมีคำสั่งปิดบาร์และร้านอาหารบางแห่ง รวมถึงการลดจำนวนที่นั่งภายในร้านลง เพื่อลดความแออัดและการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส รวมถึงออกกฎให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากเมื่อออกมาในพื้นที่สาธารณะ โดยมีบทลงโทษสูงสุดปรับเป็นเงินถึง 250 ดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณ 7,500 บาท

ที่ผ่านมาเท็กซัสเป็นรัฐแรกในสหรัฐฯ ที่คลายมาตรการล็อกดาวน์และธุรกิจต่างๆ ได้รับอนุญาตให้กลับมาดำเนินกิจการได้ตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นมา

ขณะที่ในรัฐฟลอริดา รัฐบาลท้องถิ่นมีคำสั่งประกาศปิดชายหาดไมอามีในวันชาติ 4 ก.ค. เพื่อป้องกันประชาชนรวมตัวกันเนื่องในวันหยุดยาว และได้มีการประกาศเคอร์ฟิวในช่วงเวลา 22.00 น.ถึง 6.00 น. รวมถึงมีคำสั่งปิดกิจการบางประเภทที่กลับมาเปิดในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

นายกเทศมนตรีไมอามีกล่าวว่า “การเคอร์ฟิวดังกล่าวเป็นการหยุดไม่ให้ประชาชนรวมกลุ่มและจัดปาร์ตี้ซึ่งจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็ว”

ที่มา The Guardian / Worldometers / CNBC