ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่แหลมฉบัง ประชุม EEC - รับมอบขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรล ขบวนแรก บอกสื่อ "ท่าเรือเป็นประโยชน์ของชาติ"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ติดตามความก้าวหน้า การเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังกับนานาชาติ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน อีอีซี ในยุค New Normal 

โดยนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ จากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ แล้วนั่งรถโตโยต้าอัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน ธฉ-999 กทม. ทันทีที่มาถึงนายกรัฐมนตรีได้ทักทายกับสื่อว่า ท่าเรือเป็นประโชยน์ของชาติ ก่อนรับฟังรายงานสรุปท่าเรือบก ท่าเรือแหลมฉบัง และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทย และอันดามัน ถือเป็นความก้าวหน้าในการปรับเปลื่ยนรูปแบบการขนส่ง สู่การขนส่งสินค้าด้วยระบบราง มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค กลุ่มประเทศ CLMV  

โดยวันนีี้นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมกับนักลงทุนไทยและต่างประเทศ ส่งเสริมการลงทุนให้เอกชนเข้ามาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ มุ่งสู่การลงทุนในอุตสหกรรมแห่งอนาคต เช่น เทคโนโลยีดิจิทัล หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีรับขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรล ขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง


ให้ความเชื่อมั่นนักลงทุน ไทยมีแผนยุทธศาสตร์รองรับในพื้นที่ EEC ต่อเนื่อง

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมแนวทางการเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังกับนานาชาติ ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมรับฟังรายงานสรุปโครงการท่าเรือบก (Dry Port) ท่าเรือแหลมฉบัง และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภายใต้การเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน พร้อมทั้งเป็นประธานการประชุมกับนักลงทุนไทยและต่างประเทศ ประกอบด้วยบริษัทชั้นนำ อาทิ ปตท. จำกัด Mitsubishi Motor (Thailand) QMB Co., Ltd เพื่อส่งเสริมการลงทุนใน EEC ในยุค New Normal

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามรัฐบาล ขอบคุณภาคเอกชนทุกคนที่เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในพื้นที่EEC อย่างต่อเนื่อง โดยจะเชื่อมโยงการขนส่งในทุกด้าน จึงอยากให้นักลงทุนเข้าใจตรงกัน เพราะนี่คือโอกาสในการลงทุนและเป็นความท้าทายของรัฐบาล ในการจะขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย โดยเฉพาะให้กับคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ นี่คือแผนพัฒนาประเทศต่อไป ถึงแม้ว่าจะเจอกับปัญหาที่เพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลไม่เคยหยุดคิด แต่กลับวางยุทธศาสตร์ชาติเพื่อวันข้างหน้า เพื่อเป็นอนาคตของประเทศและทุกๆ คน