ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ยก ครม.ตรวจเยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ พร้อมทดลองเดินขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง ชี้เป็นประวัติศาสตร์ ระบบขนส่งทางรางของไทย เดินหน้าต่อดันไทยเป็นศูนย์กลางระบบขนส่งมวลชนภูมิภาค โวอนาคตเชื่อมยุโรป ลั่นทัดเทียมลอนดอน-ปารีส หวังลดการจราจรติดขัด

เวลา 13.40 น. วันที่ 15 ธ.ค. 2563 ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม นำ ครม.ขึ้นรถบัส จากทำเนียบรัฐบาล ไปยังสถานีกลางบางซื่อ เพื่อตรวจเยี่ยมและการทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดง ก่อนเปิดให้บริการประชาชนอย่างเป็นทางการต่อไป

โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวอย่างอารมณ์ดีกับผู้สื่อข่าวว่า “yes จะขึ้นรถบัส ไปขึ้นรถไฟ” จากนั้น เมื่อนั่งประจำที่ นายกรัฐมนตรี ได้โบกมือทักทาย พร้อมกล่าวว่า นี่คืออนาคต เทียบได้กับนครปารีส และหอไอเฟลเลยทีเดียว และนี่คือสิ่งดีๆที่เกิดขึ้น จากนั้น บรรดาคณะรัฐมนตรี ทยอยขึ้นรถบัสที่จัดไว้ให้ รวมถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เดินขึ้นรถบัส ในขณะที่ขาเจ็บและร่วมคณะไปด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถบัส คันที่นายกรัฐมนตรีและครม.นั่ง เลขทะเบียน 34-1830 กทม.

ประยุทธ์ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง)15165720000000.jpgประยุทธ์ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) 215165724000000.jpgคณะรัฐมนตรี ประยุทธ์ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง)115150703000000_l.jpgประยุทธ์ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) วิษณุ ประวิตร 20201215150705000000.jpgประยุทธ์ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง)01215165556000000.jpg

'ประยุทธ์' ย้ำต้องดันระบบขนส่งทางรางลดจราจรติดขัดบนท้องถนน

เวลา 14.20 น. ที่สถานีกลางบางซื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ พร้อมรับฟังแผนการพัฒนาที่ดินบริเวณรอบสถานีกลางบางซื่อ และทดลองเดินขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง ระหว่างสถานีกลางบางซื่อ-สถานีรังสิต โดยมี ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ นิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชมโครงการฯ และคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ให้การต้อนรับ 

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ระบบคมนาคมขนส่งทางราง" ทั้งนี้เราต้องพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้มากยิ่งขึ้น เพื่อลดความแออัดบนท้องถนน และอำนวยความสะดวกรวดเร็วให้ประชาชน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดอื่นๆโดยกระทรวงคมนาคมและมหาดไทยได้เตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องและเป็นโครงการระยะยาว จะเห็นว่าต้องใช้เวลาแต่ทุกอย่างเริ่มได้ก็จบได้ โดยรัฐบาลคิดเสมอว่าทำอะไรก็ตามประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด ตามที่รัฐบาลกำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท หลายอย่างก็เดินไปแบบนี้ โดยมีการยึดโยงเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงของประเทศ โดยพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางราง 

โวพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อมถึงยุโรปตะวันออก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้ส่งเสริม ติดตาม มุ่งมั่น และผลักดันให้ระบบขนส่งทางรางเป็นเส้นทางสายหลัก และกำลังพัฒนาเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งในอนุภูมิภาคและภูมิภาคอาเซียน โดยที่ผ่านมาเราพัฒนาเส้นทางหลายสายเป็นสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา วันนี้ต้องไปดูเรื่องเส้นทางรถไฟฟ้าและที่จอดรถให้ครบถ้วน เพื่อลดการจราจรติดขัด เราต้องคิดทั้งระบบเพื่อไม่ให้มีปัญหา ขณะเดียวกันกำลังพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่ออนุภูมิภาคและภูมิภาค ในระยะยาวอาจเชื่อมไปจนถึงยุโรปตะวันออก โดยสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องการเจรจาพูดคุยในเวทีต่างๆ ถึงการเชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมกับประเทศอื่นๆด้วย นี่เป็นการเดินหน้าก้าวแรกเท่านั้นเอง มีอีกหลายก้าวที่ต่องเดินหน้าต่อ

ประยุทธ์ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง)215150707000000.jpgประยุทธ์ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง)20201215170015000000.jpgประยุทธ์ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) 1215170019000000.jpgประยุทธ์ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) คณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล อนุทิน 5170123000000.jpg

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับสถานีกลางบางซื่อ มีความทันสมัยเปรียบเทียบสถานีรถไฟกลางลอนดอน และนครปารีส เราไม่ด้อยไปกว่าใครเลย โดยนอกจากพัฒนาเส้นทางต้องพัฒนาขีดความสามารถของประชาชนด้วย เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้ทั่วถึง พร้อมเกิดการพัฒนา การกระตุ้นเศรษฐกิจและการขยายตัวของเมือง ให้เกิดเป็นศูนย์การค้าที่อยู่อาศัย เพื่อขยายให้กว้างขึ้นเหมือนต่างประเทศ ซึ่งในอนาคตต้องพัฒนาประเทศศูนย์กลางระบขนส่งมวลชน วันนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์การพัฒนาระบบขนส่งทางรางและการพัฒนาประเทศต่อไป นี่คือก้าวแรกของเราในเรื่อง ขนส่งทางรางและยังมีอีกหลายเรื่องที่ก้าวไปหลายก้าวแล้วในการ เดินหน้าประเทศสู่ความยั่งยืน และยังมีอีกหลายอย่างที่ทำทุกมิติรวมถึงความมั่นคง จึงต้องบูรณาการ เป็นสิ่งที่ต้องสานต่อ นี่คือปัจจุบัน อดีต และอนาคตที่ต้องเชื่อมโยงกันแบบนี้ตัดข้อใดข้อหนึ่งไปไม่ได้ 

จากนั้นรมว.คมนาคม มอบนาฬิกาที่ระลึกหมายเลข 9 ให้กับนายกฯ โดยนายกฯ ได้กล่าวว่า นาฬิกาทุกเรือนต้องเดินไปข้างหน้า เหมือนกับรัฐบาลที่ดำเนินนโยบายให้ประเทศเดินไปข้างหน้า