วันที่ 23 ก.ค. 2563 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิวัฒน์ แรงกสิวิทย์ แนวร่วมนวชีวิน ที่อดอาหารประท้วงรัฐบาล พร้อมด้วย นายศุภโชติ กระต่ายป้อง ฝ่ายประสานงานแนวร่วมนวชีวิน ยื่นหนังสือ เรื่องขอให้ดำเนินมาตรการเยียวยาปากท้องเพื่อนร่วมชาติถ้วนหน้าทันที ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี 

แนวร่วมนวชีวิน ระบุว่า ภายหลังจากวิกฤตโรคระบาดโคโรนาไวรัส 2019 ทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในภาพรวมต่อปากท้องของพี่น้องประชาชนคนไทยอย่างเป็นวงกว้าง ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการของภาครัฐที่ล้มเหลวและปล่อยปะละเลยอีกทั้งยังขาดความรับผิดชอบที่หนักแน่นในการแก้ปัญหาที่สืบเนื่องต่อมา

แนวร่วมนวชีวินและภาคประชาชนจึงมีข้อเสนอ ดังนี้

1. ขยายให้เงินเยียวยาเดือนละ 5,000 ครอบคลุมคนทุกระดับถ้วนหน้าโดยมีช่องทางที่สามารถยืนยันสิทธิได้สะดวกแม้จะไม่มีอุปกรณ์อย่างโทรศัพท์มือถือ

2. ประกันการว่างงานและมีเงินเดือนรองรับการว่างงานของผู้จบการศึกษา แต่ยังไม่มีงานรองรับหากว่างงานรัฐต้องประกันเงินเดือนสำหรับผู้ว่างงานตามค่าแรงขั้นต่ำ 80 เปอร์เซ็นต์ 

3. รัฐต้องลดค่าบำรุงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างค่าน้ำค่าไฟและค่าขนส่งสาธารณะลง 50 เปอร์เซ็นต์

4. มีมาตรการด้านรายได้พืชผลการเกษตรและการโยกย้ายแรงงานภาคการเกษตรที่ว่างงานไปสู่งานใหม่ โดยมีสวัสดิการประกันการว่างงานรองรับตามข้อ 2 ข้างต้น

"พวกเรากำลังจะตายอยู่แล้ว ถ้ารัฐบาลช่วยเหลือพวกเราไม่ได้เราจะยังมีพวกท่านไว้เป็นรัฐบาลและจะไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อไปได้อย่างไร" นายภูมิวัฒน์ กล่าว

นายศุภโชติ กล่าวต่อว่า เราคาดหวังว่า ภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากนี้รัฐบาลจะแสดงท่าที และออกมาเคลื่อนไหว ดำเนินนโยบายให้เร็วที่สุด โดยหลังจากนี้ทางกลุ่มนวชีวินจะจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทอล์กโชว์ ผ่านทางโซเชียลมีเดียและการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้รัฐบาลเห็นว่า ประชาชนกำลังมีปัญหาจริง และต้องการได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล 

ส่วนกรณีที่รัฐบาล ได้เยียวยาประชาชนจำนวนมากเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนไปแล้ว แต่ทางกลุ่มยังมีข้อเรียกร้องอีกจะซ้ำซ้อนหรือไม่ นายศุภโชติ กล่าวว่า ตนเห็นว่าโครงการเราไม่ทิ้งกันนั้น รัฐบาลมีฐานข้อมูลของประชาชนอยู่แล้ว ก็มีข้อมูลอยู่แล้วว่าประชาชนคนไหนลงทะเบียนแล้ว หรือบางคนที่ไม่ได้รับสิทธิ เราจึงเรียกร้อง ให้รัฐบาลขยายพื้นที่การลงทะเบียน การเข้าถึงสิทธิการได้รับเงิน ให้ได้มากขึ้น ง่ายขึ้น ไม่ใช่เพียงการลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์ เพราะมีผู้ใหญ่จำนวนมากที่ไม่เข้าถึงเทคโนโลยี

นายภูมิวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการเคลื่อนไหวหลังของตนนั้น จากนี้จะมีกิจกรรมทอล์กโชว์ ในเวลา 18.00 น.ของทุกวัน เริ่มวันนี้ (23 ก.ค.) ที่บริเวณข้างกระทรวงศึกษาธิการ ที่ตนนั่งอดข้าว เพื่อจะชี้ให้เห็นถึงปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้องของประชาชน และจะเป็นพื้นที่เปิดในลักษณะคล้ายหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ตกงาน จากการบริหารงานผิดพลาดของรัฐบาล เพื่อให้ได้มาพูดแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการจัดเตรียมพื้นที่ และเครื่องเสียง และกำลังประสานกับเขตดุสิต โดยในวันที่ 24 ก.ค. เวลา 11.20 น. จะมีกิจกรรม Burn In Hell ชำระล้างความอัปปรีย์ มาเผาผี ล้างความซวย ที่เราได้ร่วมทำกับกลุ่มภาคี นศ.ศาลายา ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และทางกลุ่มนวชีวินจะร่วมนศ.ทั่วประเทศจัดกิจกรรมแฟลชม็อบขึ้น เช่น ในจังหวัดนครสวรรค์, นครปฐม, และสมุทรสาคร 

นายภูมิวัฒน์ ยังเผยด้วยว่าตั้งแต่วันแรกที่อดข้าวประท้วงมาถึงวันนี้ ยังไม่มีการประสานงานใดๆ จากรัฐบาล ภาครัฐยังคงนิ่งนอนใจกับปัญหาของประชาชน ไม่ได้มีการดำเนินการแก้ไข วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะกินแค่ข้าวเย็นมื้อเดียว แล้วในวันพรุ่งนี้จะยกระดับไม่กินข้าว จะกินแต่น้ำอย่างเดียว นาน 1 อาทิตย์ และถ้ายังไม่ได้รับเสียงตอบรับจากรัฐบาลก็จะยกระดับขึ้นไปอีก