ไม่พบผลการค้นหา
ไต้หวันกำลังเผชิญความท้าทายจากโควิดระลอกใหม่ จากชาติต้นแบบที่เคยประสบความสำเร็จคุมระบาด สู่การยกระดับคุมระบาดเมืองหลวง หลังคลัสเตอร์ใหญ่ทำผู้ติดเชื้อใหม่นิวไฮ

'ไต้หวัน' หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า 'สาธารณรัฐจีน' ประเทศซึ่งได้รับการจับตาและได้รับเสียงยกย่องในฐานะประเทศตัวอย่างของการรับมือโควิด-19 อย่างกว้างขวางในระดับนานาชาติ โดยนับตั้งแต่ 21 มกราคม 2563 ซึ่งพบรายงานติดเชื้อคนแรกของประเทศ จนถึงข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ 17 พ.ค. ไต้หวันมียอดติดเชื้อสะสมรวมอย่างน้อย 2,017 เสียชีวิตสะสม 12 ราย 

ทว่าล่าสุดไต้หวันกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่จากสถานการณ์ระบาดระลอกใหม่ภายในประเทศ ที่นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพ.ค. ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเริ่มกลับมาสูงขึ้น โดย 17 พ.ค. ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดของโรคกลาง (CECC) ได้รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่ 335 คน นับเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงที่สุด นับตั้งแต่ประเทศพบการระบาดของโควิด ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่พบในพื้นที่กรุงไทเปเมืองหลวง และนครนิวไทเปซึ่งอยู่ปริมณฑล

เป็นเหตุให้ทางการไต้หวันยกระดับการควบคุมโรคเป็นระดับ 3 จากทั้งหมด 4 ระดับ มีการปิดกั้นและห้ามทำบางกิจกรรมในพื้นที่กรุงไทเปเมืองหลวง และเขตนครนิวไทเปเมืองสำคัญใกล้เคียง ครอบคลุมประชากรราว 6.3 ล้านคนที่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการคุมระบาดอันรัดกุม จำกัดการทำกิจกรรมรวมกลุ่มในพื้นที่เมืองหลวง ผับบาร์ โรงยิมทั่วประเทศถูกสั่งปิด อนุญาตให้ทำกิจกรรมในร่มเฉพาะในกรุงไทเปและเมืองนิวไทเปไม่เกิน 5 คน กำหนดให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมืองออกนอกสถานที่ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 3,000 - 15,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 3,000 - 15,000 บาท มาตรการดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ใหญ่ทั้งเมือง แต่หน่วยงานท้องถิ่นยอมรับว่า หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นรัฐบาลอาจจำเป็นต้องยกระดับการปิดกั้นอย่างเข้มงวดขึ้นไปอีก

ขณะที่สถานศึกษาตั้งแต่ระดับโรงเรียนมัธยมจนถึงเนอร์เซอรีอนุบาลทุกแห่งในกรุงไทเป และเขตนิวไทเป จะต้องปิดทำการเป็นเวลาสองสัปดาห์นับตั้งแต่วันอังคารนี้เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวหน่วยงานราชการบางแห่งจะงดให้บริการเช่นกัน 

ตอนหนึ่งในคำแถลงของ CECC ระบุว่า "พบระดับการแพร่เชื้อในชุมชนที่เพิ่มขึ้น ทั้งเคสการติดเชื้อแบบไม่สามารถสืบสาเหตุได้ รวมถึงการติดเชื้อเป็นกลุ่มใหญ่หรือคลัสเตอร์ในเมืองนิวไทเป" เป็นที่น่าสังเกตว่าการระบาดระลอกใหม่ของไต้หวันในครั้งนี้ มีทั้งการพบผู้ติดเชื้อแบบที่ไม่ทราบสาเหตุการติด กับอีกกลุ่มคือกรณีคลัสเตอร์พนักงานต้อนรับในร้านน้ำชาแห่งหนึ่งในเมืองนิวไทเป และอีกคลัสเตอร์คือกลุ่มพนักงานในสวนสนุกที่เมืองอี๋หลานทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

สอดคล้องรายงานของสำนักข่าวแห่งชาติไต้หวันที่เผยคำแถลงของ เฉินสือจง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ ซึ่งกล่าวว่า ไต้หวันกำลัง "สภาวะวิกฤต " จากการระบาดระลอกใหม่นี้ พร้อมเรียกร้องให้พลเมืองปฏิบัติตามแนวทางคำแนะนำของรัฐ และร่วมกันดูแลคนรอบข้างให้ปลอดภัย

ไต้หวัน โควิด

แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมโดยรวมอาจดูไม่สูงมากหากเทียบกับชาติอื่นๆ ประกอบกับตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี 4 เดือนไต้หวันซึ่งส่วนใหญ่พบจำนวนผู้ติดเชื้อในหลักสิบหรือหลักร้อยจากการกักกันโรคก่อนเดินทางเข้าประเทศ ท่ามกลางการระบาดในประเทศที่เป็นศูนย์ ปีที่ผ่านมาไต้หวันเคยสร้างสถิติไร้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศเป็นเวลากว่า 250 วัน

ทว่าตัวเลขติดเชื้อใหม่ในประเทศรายวันที่สูงทุบสถิตินับตั้งแต่พบการระบาด ได้สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนที่เคยชินกับการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงกับสถาวะปกติมาโดยตลอด เนื่องจากที่ผ่านมาไต้หวันพบการติดเชื้อในระดับชุมชนที่ต่ำมาก กรุงไทเปแทบไม่มีการปิดกั้นอย่างเต็มรูปแบบดังเช่นเมืองอื่นทั่วโลกมาก่อน ชาวเมืองจำนวนมากแห่ไปกักตุนสินค้าตามห้างสรรพสินค้าจนเกลี้ยงชั้นวาง

มีรายงานจำนวนผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้าของกรุงไทเปลดลง 60% ตั้งแต่ช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา ย่านซีเหมินติงอันเป็นแหล่งท่องเที่ยวชอปปิงสำคัญของเมือง กลายสภาพร้างผู้คนในทันที เช่นเดียวย่านว่านหัว อันเป็นส่วนหนึ่งของคลัสเตอร์ระบาด ร้านค้าต่างในบริเวณดังกล่าวต่างปิดทำการแทบทั้งหมด พร้อมมีรถพ่นสารเคมีฆ่าเชื้อโรคของทางการขับไปตามท้องถนน วัดหลงซานซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันอันเคยเป็นสถานที่สักการะที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนกลับเงียบเหงาในทันที

โค เหวิน เจ้อ นายกเทศมนตรีกรุงไทเป เรียกร้องให้ผู้คนอยู่บ้านให้ได้มากที่สุด พร้อมเรียกร้องให้สถานศึกษาใช้รูปแบบการสอนออนไลน์ ทั้งยังขอให้ประชาชนออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ภายนอก เช่นเดียวกับรัฐบาลไทเปที่เรียกร้องให้ภาคเอกชนอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านเพื่อลดความแออัด


วัคซีนยังไม่แน่นอน

ไม่ต่างกับหลายชาติที่เริ่มกระบวนการฉีดวัคซีนแล้ว แต่ด้วยความสำเร็จในการคุมระบาดของประเทศ ส่งผลไต้หวันแม้เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงจากการคุมระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังมีอัตราแจกจ่ายวัคซีนในที่ต่ำกว่าหลายหลายชาติอยู่มาก จากข้อมูลของหน่วยงานสาธารณะสุขของประเทศพบว่า ไต้หวันซึ่งมีประชากรราว 23 ล้านคน แต่มีอัตราประชากรที่เข้าถึงวัคซีนเข็มแรกยังน้อยกว่า 1% ของประชากทั้งประเทศ โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วกลุ่มแรกนั้นส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ บุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงานฉุกเฉินหรือมีความเสี่ยงสูงอื่น ๆ ตลอดจนนักการทูต ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงบางส่วน

ทั้งนี้ ไต้หวันได้สั่งจองวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเบื้องต้นจำนวน 10 ล้านโดส ในการฉีดแจกจ่ายประชาชน รัฐบาลไทเปได้รับมอบวัคซีนล็อตแรกจำนวน 117,000 โดส ช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ไต้หวันรับมอบวัคซีนแอสตร้าฯเพียง 315,000 โดส ท่ามกลางสภาวะการระบาดรอบใหม่ของประเทศที่การฉีดวัคซีนต้องเป็นความจำเป็นเร่งด่วน

ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ผู้นำไต้หวัน กล่าวว่า วัคซีนจะเดินทางมาถึงเพิ่มติมอีกในเดือนหน้า แต่ยังปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขไต้หวันยอมรับว่า "ยังไม่มีความคืบหน้า" ในกรณีการส่งมอบวัคซีนของแอสตร้าฯ อย่างไรก็ตาม ไต้หวันเองก็อยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของตนเองเช่นกัน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทดลองในระยะที่สองในกลุ่มอาสาสมัครราว 4,000 คน หากไม่มีอะไรผิดพลาด ทางการคาดว่าจะอนุมัติฉุกเฉินให้แจกจ่ายประชาชนได้ในเดือนกรกฎาคม

ที่มา: CNN , TheGuardian