ที่ชุมชน ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย นายชัชวาล นันทะสาร ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครปฐม และทีมผู้สมัคร สจ. ร่วมรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ ต.คลองโยง ต.ศาลายา และ ต.คลองมหาสวัสดิ์ โดยเป็นการเปิดเวทีให้คนในพื้นที่ได้นำเสนอปัญหา และให้คำแนะนำกับทีมงานว่าอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่เป็นอย่างไร โดยทางคณะก้าวหน้าเตรียมที่จะนำปัญหาและข้อเสนอต่างๆ เหล่านี้ ไปออกแบบเป็นนโยบายเพื่อใช้สำหรับหาเสียงในการเลือกตั้ง อบจ. ที่จะมาถึง และจะเป็นนโยบายในการพัฒนาจังหวัดนครปฐมต่อไป 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในการพูดคุย เป็นไปด้วยความสนุกสนาน มีประชาชนร่วมสะท้อนปัญหาในพื้นที่หลากหลายเรื่อง อาทิ เกษตรกรทำนาข้าวที่ราคาตกต่ำ และการเผาตอซังข้าวที่ทำไม่ได้แล้วเนื่องจากทำให้เกิดฝุ่นควัน ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงในการจัดการ เกษตรกรทำนาบัวซึ่งมีปัญหาเรื่องถูกกดราคา และน้ำเสียจากบ้านเรือนเข้ามาปะปน ปัญหาโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ซึ่งถูกประกาศเป็นพื้นที่สีเขียว รวมถึงข้อเสนอของคนในชุมชนที่อยากพัฒนาให้เขต ต.คลองโยง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร พัฒนาแหล่งน้ำลำคลองให้เรือสัญจรได้

นายธนาธร กล่าวว่า ปัญหาที่พี่น้องประชาชนสะท้อนให้ฟังวันนี้ ทางคณะก้าวหน้าจะเก็บรวบรวมร่วมกับพื้นที่อื่นๆ ที่เราจะเดินทางไปทั่วทั้งจังหวัดนครปฐม เพื่อนำไปผลิตเป็นนโยบาย เพราะเราเชื่อว่าการนั่งคิด นั่งทำงาน ออกแบบนโยบายแต่ในห้องแอร์ไม่มีทางตอบโจทย์ปัญหาของคนพื้นที่ ดังนั้น ต้องเดินทางมารับฟังแบบนี้ โดยเรื่องที่ดีก็ต้องสนับสนุนยกระดับให้ดียิ่งขึ้น ส่วนที่เป็นปัญหาต้องออกแบบหาวิธีการแก้ไข และการเมืองท้องถิ่นนี่แหละที่จะเป็นสิ่งที่ใกล้ชิดกับปัญหาเหล่านี้ จะเป็นคนกำหนด

เป็นคนออกแบบว่าภาษีที่เราจ่ายไป จะถูกใช้ไปในกับถนนหนทางในบ้านเราอย่างไร ใช้ในการพัฒนาแหล่งน้ำลำคลองในบ้านเราอย่างไร โรงเรียนที่ลูกหลานเราเรียนจะมีคุณภาพมาตรฐานแบบไหน ไฟฟ้าประปาจะเป็นอย่างไร เปลี่ยนประเทศไทยเริ่มได้ที่บ้านเรา ดังนั้น อยากให้ทุกคนให้ความสําคัญกับการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งในจังหวัดนครปฐม เราได้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ คือ ชัชวาล นันทะสาร เป็นว่าที่ผู้สมัคร อบจ. ซึ่งเราร่วมงานกันมาตั้งแต่ครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ เป็นคนที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย และมั่นใจได้ว่าถ้าเลือกไปแล้วไม่มีทางเป็นงูเห่าอย่างแน่นอน 

ด้าน นายชัชวาล กล่าวว่า หนึ่งในความคิดที่ตนอยากทำในจังหวัดนครปฐม คือการรักษาพื้นที่สีเขียวไว้ให้ได้เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะปัจุบันนี้เราเหลือพื้นที่สีเขียวอยู่ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังมีการรุกล้ำหายไปอีกเรื่อยๆ เนื่องจากการขยายตัวของเมือง ดังนั้น เราต้องมาร่วมกันคิดในเรื่องนี้ว่าจะทำอย่างไร เช่นในพื้นที่ ต.คลองโยง เป็นแหล่งเกษตรกรรมชั้นดี มีการปลูกข้าวหอมนครไชยศรี การทำนาบัว และทำเกษตรต่างๆ เยอะมาดู รับฟังข้อมูลจากคนในพื้นที่ อย่างการเสนอเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่มีพี่น้องประชาชนนำเสนอ ก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่น่าสนใจ

ต่อมา 13.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายชัชวาล นันทะสาร เดินทางพบปะประชาชนในพื้นที่ตลาดน้ำวัดดอนหวาย ก่อนที่จะนั่งเรือทวนแม่น้ำท่าจีนมาขึ้นที่ท่าเรือวัดกลางบางแก้ว และเดินพบปะประชาชนที่ตลาดท่านา โดยที่ตลาดทั้ง 2 แห่ง มีประชาชนซึ่งทราบข่าวมารอต้อนรับและมอบพวงมาลัยดอกไม้ให้กำลังใจ และขอถ่ายรูปท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นและคึกคักเป็นอย่างยิ่ง จากนั้น ทีมผู้สมัคร อบจ.คณะก้าวหน้า ได้พานายธนาธรไปยังบริเวณชุมชนปากคลองเจดีย์บูชา ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นตลาดต้นสนที่เคยคึกคักอย่างยิ่ง แต่ปัจจุบัน เนื่องจากคลองเจดีย์บูชาถูกปล่อยทิ้งร้าง น้ำในคลองส่งกลิ่นเน่าเหม็น ตลาดต้นสนจึงลดความสำคัญจนกระทั่งไม่มีพ่อค้าแม่ขาย และผู้คนที่เคยอยู่อาศัยก็เริ่มย้ายออกไปจนเหลือไม่กี่ครอบครัว ทั้งนี้ ทีมผู้สมัครนายก อบจ. มีแนวคิดที่จะรื้อฟื้นคลองดังกล่าว ให้เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำและฟื้นการท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง เพราะจากบริเวณดังกล่าวสามารถเดินเรือไปจนถึงองค์พระปฐมเจดีย์ได้

นายชัชวาล กล่าวว่า คลองเจดีย์บูชาเป็นคลองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นคลองที่รัชกาลที่ 4 ทรงให้ขุดขึ้นสำหรับการเดินทางต่อจากบริเวณแม่น้ำท่าจีน เพื่อไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญของจังหวัด แต่เดิมบริเวณปากคลองแห่งนี้มีความคึกคักอย่างมาก เรียกกันว่าตลาดต้นสน แต่ปัจจุบันนี้ถูกทิ้งร้าง บ้านเรือนริมคลองอยู่ในสภาพทรุดโทรม ซึ่งจากการที่เราได้มาสำรวจ ได้พูดคุยกับคนในชุมชน ทุกคนก็มีความคิดพร้อมแนวคิดที่น่าสนใจในการฟื้นตลาดแห่งนี้ รื้อฟื้นคลองประวัติศาสตร์สายนี้อีกครั้ง ตั้งใจจะให้ตรงนี้กลับมาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอีกแห่งหนึ่ง

โดยเบื้องต้น เราอาจต้องคิดเรื่องของการปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลอง และพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวนสำคัญเหมือนแต่ก่อนได้ เพราะเป็นจุดทำเลดีมาก ขณะที่ในระยะยาวก็คิดถึงเรื่องการสัญจรทางน้ำ เพราะจากจุดนี้ สามารถล่องเรือไปจนถึงองค์พระปฐมเจดีย์ได้ด้วยระยะทาง 15 กิโลเมตร ก็จะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการเดินทางของพี่น้องประชาชน ลดการจราจรด้วยรถยนต์ทางถนน และยังได้ในเรื่องของการท่องเที่ยวอีกด้วย

ด้าน นายธนาธร กล่าวว่า จากที่ได้มาเห็นสภาพพื้นที่จริง ได้พูดคุยกับคนในชุมชน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้ฟื้นฟูคลองเจดีย์บูชาและตลาดแห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เพราะปัจจุบันเนื่องจากเมื่อน้ำเน่าเสีย บ้านเรือนก็ไม่มีคนอยู่อาศัย สภาพจึงผุพัง จากที่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง คิดว่าสามารถที่จะออกแบบนโยบายพัฒนาตรงนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญได้ เป็นร้านอาหาร เป็นพิพิธภัณฑ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งในเรื่องการคมนาคมขนส่งทางน้ำ ถ้าสามารถทำได้ก็จะช่วยให้คลองเจดีย์บูชากลับมามีชีวิตอีกครั้ง

 ซึ่งตนเชื่อว่า ถ้าเราดึงความร่วมมือจากคนในชุมชน ท้องถิ่นจัดสรรงบประมาณเพียงพอ และได้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์มาทำงานร่วมกันกับชุมชน ตรงนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพราะบริเวณปากคลองเชื่อมกับแม่น้ำท่าจีนที่มีความงดงามมาก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิม เส้นทางที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สามารถล่องเรือไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ได้อีกครั้งเหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดได้