บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ช่วงเช้า ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย แม้เบื้องต้นแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศว่าจะไม่มาชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาลตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ แต่ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย ได้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบอยู่ทุกจุดโดยรอบ ตั้งแต่สะพานมัฆวานมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ประจำเวรยามวางกำลังไว้ทุกจุดและได้ปิดประตูทางเข้า-ออก ทุกประตูรอบทำเนียบ ยกเว้นประตูทางเข้าสะพานอรทัย และประตู 8 เลียบคลองผดุงกรุงเกษม เปิดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น ทั้งนี้ บุคคลที่จะเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลและสื่อมวลชน ต้องติดบัตรประจำตัวที่ออกโดยทำเนียบรัฐบาลอย่างชัดเจน 

ในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาเตรียมความพร้อม มีการสนธิกำลังจากตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 เข้ามาเตรียมความพร้อม ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ได้มีการเรียกรวมพลที่บริเวณลานที่จอดรถหน้าอาคาร 20 ติดกับกองร้อยสันติบาล 3

พล.ต.ท.สุรพล อยู่นุช ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานงานทำเนียบรัฐบาล ระบุว่าในส่วนของทำเนียบรัฐบาลวันนี้มีกำลังเจ้าหน้าที่ 1 กองร้อย รวมทั้งกำลังตำรวจประจำทำเนียบรัฐบาล โดยในส่วนการดูแลผู้ชุมนุมนั้นนายกรัฐมนตรีมีนโยบายชัดเจนว่าห้ามความรุนแรงและพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ โดยให้ใช้การเจรจาพูดคุยเป็นหลัก 

ทั้งนี้ จะต้องประเมินสถานการณ์ดูหน้างานอีกครั้งว่าจะต้องเสริมกำลังหรือไม่ ซึ่งได้มีการการประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลอย่างใกล้ชิดมาตลอดถึงแผนต่างๆ ดังนั้นจึงเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร ขณะเดียวกันมองว่าผู้ชุมนุมเหมือนลูกหลาน ที่ใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย 

แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงในเรื่องการรวมตัวกันทั้งในเรื่องของการระบาดโควิด-19 อากาศ ที่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะขณะนี้มีฝนตกลงมา จึงต้องระวังสุขภาพและเตรียมป้องกันกันพราะอาจทำให้ไม่สบายได้ 

พล.ต.ท.สุรพล ยังเชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรง แต่ก็ต้องดูหลายอย่างประกอบกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องดูแลความเรียบร้อยทั้งในทำเนียบและภายนอกอยู่แล้ว รวมถึงดูแลเรื่องการจราจรต่างๆ ที่ได้มีการประชาสัมพันธ์เส้นทางจราจรให้รับทราบและหลีกเลี่ยง ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดผลกระทบต่อประชาชนที่เดินทางไป

ส่วนการข่าวนอกจากกลุ่มนักศึกษาจะมีกลุ่มอื่นหรือมีมือที่ 3 ด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.สุรพล กล่าวเพียงสั้นๆว่า ด้านการข่าวรู้อยู่แล้ว รู้ตัวอะไรอยู่บ้าง 

ระหว่างการรวมพลผู้บังคับหน่วย พล.ต.ท.สุรพล ได้กำชับให้กำลังพลว่า "การปฏิบัติหน้าที่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาที่ย้ำเสมอว่าตำรวจจะไม่ทำร้ายประชาชน ภารกิจเรามีเพียงหน้าที่ในการรักษาความสงบภายในพื้นที่ ไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปปะทะกับประชาชน ดังนั้นการกระทำใดก็ตามหากถูกยั่วยุอย่าตอบสนอง ซึ่งกล้องที่หน้าอกบันทึกไว้ทั้งหมดสิ่งเหล่านี้ใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการในภายหลัง และเป็นหลักฐานในการติดตาม และย้ำตำรวจจะไม่ทำร้ายประชาชน โดยขอให้ตำรวจทุกคนอดทน อดกลั้นในการปฏิบัติ ทุกภารกิจไม่ว่าผู้บังคับบัญชาจะมอบหมายภารกิจใดก็ตาม ต้องไม่ทำร้ายประชาชนและดำเนินการด้วยการด้วยความสุภาพ ย้ำว่าหากถูกยั่วยุเราต้องไม่ตอบสนอง ไม่เช่นนั้นเราจะตกเป็นเครื่องมือของการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น"

กลุ่มผู้ชุมนุม เริ่มรวมตัว บริเวณประตูทางเข้าม.ธรรมศาสตร์

บรรยากาศที่ หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มผู้ชุมนุม เริ่มรวมตัว บริเวณประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตรงข้ามสนามหลวง โดยมีการนำรถติดเครื่องขยายเสียง ซึ่งข้างๆติดป้ายว่ากลุ่ม อีสานปลดแอก มหาสารคาม มาปราศรัย เป็นวงขนาดเล็ก โดยมีเนื้อหาปราศรัยโจมตีรัฐบาล และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 

ขณะที่ประตูรั้วมหาวิทยาลัยยังคงปิด ส่วนภายในมหาวิทยาลัยพบเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องเเบบยืนกระจายตามจุดต่างๆ 

ส่วนการจราจรบริเวณถนน ซ.หน้าพระธาตุ ยังคงเปิดการจราตามปกติ ซึ่งกลุ่มมวลชนยังทยอยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมการเเพทย์มาตั้งจุดคัดกรองประชาชน ให้ผู้มาร่วมชุมนุมสวมหน้ากากอนามัย เเละหากพบว่าใครมีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา ก็จะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ เพื่อป้องกันโควิด-19

ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย มีการติดตั้งเครื่องซีทีสเเกนตรวจหาอาวุธ มีตำรวจ รวม 3 กองร้อย แบ่งเป็น บองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ตำรวจภูธรจังหวัดตราด และตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ยังมีตำรวจหญิง ตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวนมาก กระจายกำลังยืนอยู่ตามจุดต่างๆ ทั้งรอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เเละรอบสนามหลวง 

'ไมค์' ขอ ม.ธรรมศาสตร์ เห็นใจเปิดประตูให้กลุ่มผู้ชุมนุม

เวลา 10.45 น.ที่ผ่านมา ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ เเกนนำกลุ่มประชาชนปลดเเอก ได้เดินทางมายังบริเวณหน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่าขณะนี้ทางเเกนนำกลุ่ม ยังอยู่ระหว่างการประชุมหารือกัน เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่ ซึ่งคาดว่าช่วงบ่ายจะมีมวลชนเดินทางมาเพิ่มเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก ยืนยันว่าวันนี้จะต้องเข้าไปในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ได้ ดังนั้นขอความเห็นใจจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดประตูให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำกิจกรรม เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่ง ภาณุพงศ์ ยังยืนยันอีกว่า วันนี้เเกนนำทุกคน จะมารวมตัวกันที่นี่เเน่นอน

ต่อมาเวลา 11.00 น. มีเหตุชุลมุนเล็กน้อย เนื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถเครื่องขยายเสียง เข้ามาจอดตรงข้ามกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งที่มีการปราศรัยอยู่หน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมประกาศข้อกำหนดการชุมนุมให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ชุมนุม และ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 พร้อมขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมทำกิจกรรมอยู่บนฟุตบาทริมถนน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการจราจร 

โดยเมื่อตำรวจเริ่มกล่าวนั้นทำให้มีมวลชนบางกลุ่มไม่พอใจ ตะโกนต่อว่าและโห่ร้อง พร้อมเดินเข้าหาตำรวจ แต่แกนนำได้กล่าวให้กลับเข้ามาในฝั่งของตน ส่วนตำรวจได้ประกาศว่าจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุด ทำให้สถานการณ์ยังเรียบร้อย ไม่เกิดความรุนแรง

ปชช.แหวกรั้วสนามหลวง มวลชนเสื้อแดงเหนือ-อีสาน คึกคัก!

บรรยากาศที่สนามหลวง ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายกองร้อยรวมถึงตำรวจจราจรและ เจ้าหน้าที่เทศกิจของ กทม. วางกำลังและคอยดูแลความสงบรวมถึงอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ทยอยมารอการชุมนุมใหญ่ตั้งแต่ช่วงเช้า มีทั้งประชาชนกลุ่มอีสานปลดแอก ตั้งรถปราศรัยย่อยหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประชาชนจากภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และลำปาง เดินทางถึงสนามหลวงและเข้านั่งพักในเต็นท์ภายในสนามหลวงตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. บางส่วนกระจายตัวอยู่ในพื้นที่สนามหลวงบริเวณตรงกลางที่ตำรวจกั้นรั้วไว้และนำรถเครื่องขยายเสียงจอดไว้ รวมทั้งมี 'ธงแดง' ขนาดใหญ่ปักเป็นสัญลักษณ์ไว้ด้วย และในส่วนของกรุงเทพมหานครมีรถสุขาเคลื่อนที่ จอดในสนามหลวง 2 คัน ซึ่งประชาชนที่มาร่วมชุมนุมเข้าใช้บริการได้ และยังมีกลุ่ม 24 มิถุนายนประชาธิปไตยตั้งเต็นท์ขายเสื้อเพื่อสมทบทุนสนับสนุนการชุมนุม บริเวณทางเข้าสนามหลวง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วย

ขณะที่ เวลาประมาณ 10.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ใช้รถขยายเสียงประกาศเตือนผู้จัดชุมนุมและผู้มาร่วมชุมนุม บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ ริมฟุตบาทข้างสนามหลวง ตามมาตรการเบื้องต้นในการดูแลการชุมนุมสาธารณะ ว่าผู้จัดไม่ได้แจ้งการชุมนุม จึงเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมายหลายข้อ รวมถึงมีสถานการณ์โควิด-19 อยู่ จึงขอให้ยุติการชุมนุม แต่หากไม่เป็นผล และประชาชนผู้มารอเข้าร่วมการชุมนุมในช่วงเย็นต่างโห่ร้องแสดงความไม่พอใจ ทางตำรวจจึงขอให้ผู้ชุมนุม รวมตัวกันบนฟุตบาทเพื่อไม่ขัดขวางการจราจร พร้อมยืนยันว่าทางตำรวจนครบาลมีการตั้งจุดสกัดตรวจค้นอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ หากมีผู้พบเห็นให้แจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและย้ำด้วยว่าทางตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในส่วนจราจรและอื่นๆ ให้ประชาชน