ไม่พบผลการค้นหา
"พิชัย" สวน "ประยุทธ์" ต้องหยุดพูดเศรษฐกิจเป็นคนแรก เพราะไม่รู้จริง ทำให้สับสน ชี้ฉายาที่สื่อตั้งสะท้อนตัวตนแท้จริง ท้าซ้ำ ถ้าอิเหนาเมาหมัดมั่นใจรู้จริง ให้ออกสัมภาษณ์ทางทีวีพร้อมกัน

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้เตือนคนที่ไม่เข้าใจเศรษฐกิจอย่าโพสต์ ยิ่งสร้างความขัดแย้ง ตนเห็นว่าคนแรกเลยที่ไม่ควรโพสต์ หรือพูดเรื่องเศรษฐกิจคือ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยแสดงให้ประชาชนเห็นเลยว่ามีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจเลย และยิ่งมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเองก็ยิ่งไปกันใหญ่ 

นอกจากนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความเห็นทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาดมาโดยตลอด พูดเหมือนคนไม่รู้เรื่อง และทำให้ความมั่นใจของประเทศหดหาย จึงทำให้การลงทุนหดหายไปด้วย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์เองยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบันเป็นผลมาจากการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของรัฐบาลมาตลอด 5 ปีกว่า ที่การลงทุนหดหาย ส่งผลทำให้การส่งออกติดลบ ล่าสุดการส่งออกเดือน พ.ย. ยิ่งติดลบหนักถึง -7.4 เปอร์เซ็นต์ และเศรษฐกิจของไทยจะยิ่งเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ โรงงานจะปิดตัวเพิ่มขึ้นอีก คนจะยิ่งตกงานเพิ่มขึ้น หนี้เสียจะเพิ่มขึ้น เหมือนทฤษฎีกบต้มที่ตนเคยเตือนไว้แล้ว แต่พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังขาดความรู้ว่ามีทฤษฎีกบต้มนี้อยู่จริง จึงได้ส่งพล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ไปฟ้องตน ซึ่งถ้ามีความรู้อยู่บ้างคงไม่กล้าส่งคนไปฟ้องตนแน่

ก่อนหน้านี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดว่า "ผมทำมากกว่าไอ้รัฐบาลบ้าพวกนั้นอีก จะบอกให้ ผมรู้มากกว่าที่เขารู้อีก ผมไม่โง่ขนาดนั้นหรอก" ยิ่งแสดงถึงความไม่รู้มากเข้าไปอีก เพราะหากเทียบการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะพบว่าช่วง 5 ปีกว่า รัฐบาลประยุทธ์มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยต่อปีต่ำที่สุดในแทบทุกรัฐบาลที่ผ่านมา และรัฐบาลที่ผ่านมาคงไม่แย่พอที่จะคิดว่า จะปลูกหมามุ่ยแทนปลูกข้าวได้ เพราะไม่รู้ว่าจะนำหมามุ่ยจำนวนมากไปขายที่ไหน น้ำท่วมให้เลี้ยงปลา แล้วเมื่อน้ำลดแต่ปลายังไม่โตจะทำอย่างไร คิดถึงขนาดจะส่งรองเท้าแตะ ขัน ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ที่พลทหารทุกคนใช้กันไปขายทั่วโลกได้ นำเงินประกันสังคมปล่อยกู้ได้ทั้งที่มีกฎหมายห้ามไว้ อาหารทะเลแพงก็ไม่ต้องกิน และส่งยางพาราขายดาวอังคารได้ ซึ่งคงไม่มีรัฐบาลในอดีตจะสามารถคิดได้ย่ำแย่ขนาดนี้ แล้วจะบอกว่าไม่โง่ขนาดนั้นได้อย่างไร  

โดยหากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ทำได้ดีกว่ารัฐบาลในอดีตจริง ก็คงไม่มีการลบคลิปการปาฐกถาของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่พูดโจมตีรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในช่วงก่อนการปฏิวัติปลายปี 2556 โดยต่อว่ารัฐบาลในขณะนั้นได้ทำให้ทุกเสาหลักเศรษฐกิจเสื่อม แต่เมื่อนายสมคิดได้เข้ามาบริหารเศรษฐกิจแทนหลังการปฏิวัติ กลับทำให้ทุกเสาหลักเศรษฐกิจเสื่อมหนักยิ่งกว่าเดิมมาก ทั้งการส่งออกที่ติดลบ การลงทุนที่หดหาย รายได้ของประชาชนที่ตกต่ำทำให้การบริโภคลดลง และ การพัฒนาประเทศที่เสื่อมถอย จนนายสมคิดเองอาจจะทนละอายใจไม่ไหว จึงมีการลบคลิปที่พูดออกไป แต่ประชาชนสามารถเข้าไปอ่านในข่าวที่นายสมคิดเคยพูดไว้ได้ เพราะในโลกสมัยใหม่ที่เป็นดิจิตอลจึงทำให้ไม่สามารถลบข่าวออกได้หมด ซึ่งก็จะทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมนายสมคิดถึงต้องละอายใจถึงขนาดที่ต้องมีการลบคลิปทิ้ง เพราะว่าแต่เขาแต่ตัวเองกลับทำได้แย่กว่ามาก และความล้มเหลวนี้จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่นายสมคิดสมควรจะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 

อย่างไรก็ดี ฉายาที่สื่อมวลชนตั้งให้ ว่าเป็น "รัฐเชียงกง" เปรียบเหมือนแหล่งค้าขายอะไหล่มือสอง ขาดความน่าเชื่อถือ ไม่มีเสถียรภาพ และ ฉายา "อิเหนาเมาหมัด" น่าจะสะท้อนความเป็นตัวตนของรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะฉายาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับนั้น สะท้อนได้ว่าเป็นคนพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย ชอบตำหนิรัฐบาลที่แล้วแต่ก็นำแนวคิดมาเลียนแบบทำเองซะหมด และพูดจาอะไรก็เข้าตัวเองหมด เหมือนสำนวน "ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง" แต่มากกว่าเหมือนเมาหมัดเพราะสับสน แม้กระทั่งเรื่องเศรษฐกิจนี้

หากจำกันได้ พล.อ.ประยุทธ์เพิ่งส่งเสริมให้ประชาชนพูดเรื่องเศรษฐกิจมากๆ โดยบอกเองว่าเพราะประเทศที่เจริญแล้วประชาชนจะพูดเศรษฐกิจกันมาก เพื่อจะได้ช่วยกันคิดพัฒนาประเทศ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ก่อนหน้านี้กลับเรียกตนไปปรับทัศนคติหลายหนเพราะวิจารณ์เศรษฐกิจ แสดงถึงความสับสนในตัวเองสูง ต่อมาอีกไม่กี่วันพล.อ.ประยุทธ์ กลับบอกว่าอย่าวิจารณ์เศรษฐกิจมาก เพราะรัฐบาลจะแก้ไขเศรษฐกิจยาก และหลังสุดบอกถ้าไม่รู้จริงอย่าโพสต์เศรษฐกิจจะทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าขนาดหลักคิดง่ายๆ เรื่องการพูดเรื่องเศรษฐกิจพล.อ.ประยุทธ์ เองยังไม่รู้จริงและคิดสับสนกลับไปกลับมา แล้วเรื่องเศรษฐกิจอื่นจะรู้เรื่องได้อย่างไร

ทั้งนี้ ตนเคยท้ามาตลอดว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่ารู้เศรษฐกิจอย่างแท้จริง ก็ควรจะกล้าออกทีวีให้ตนสัมภาษณ์ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมีความรู้ทางเศรษฐกิจจริงอย่างที่โม้ไว้หรือไม่ โดยตนยินดีส่งคำถามให้เตรียมตัวก่อนด้วย