ต่างประเทศ
'เจ้าชายชาร์ลส์' ประสงค์เปิดวังที่ประทับส่วนพระองค์ เป็นพื้นที่สาธารณะ เมื่อครองราชย์
เดอะซันเดย์ไทมส์ รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ ดยุกแห่งคอร์นวอลล์ มีพระประสงค์เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในราชสำนัก เมื่อคราวที่พระองค์ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ในอนาคต
รายงานระบุว่า รัชทายาทแห่งราชวงศ์อังกฤษ พระชนมายุ 72 ปี ทรงวางแผนเปิดให้พระราชวังหลายแห่ง อาทิ พระราชวังบักกิงแฮม พระราชวังวินเซอร์ พระตำหนักคลาเรนซ์ พระตำหนักซานดริงแฮม พระราชวังโฮลีรู้ด และปราสาทบัลมอรัลในสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่ประทับส่วนพระองค์ของสมาชิกราชวงศ์ โดยเฉพาะพระมหากษัตริย์ สู่การเป็นพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนเข้าถึงได้
ที่ปรึกษาการวางแผนในอนาคตของราชวงศ์ระบุว่า ดยุกแห่งคอร์นวลล์ รวมถึงเจ้าชายวิลเลียมและดัชเชสแคทเธอรีนแห่งเคมบริดจ์มีความเห็นตรงกันที่จะเปิดพื้นที่ประทับส่วนพระองค์สู่การเป็นพื้นที่ซึ่งสาธารณชนเข้าถึงได้ในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงปีสองปีหลังเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนนักเกี่ยวกับท่าทีหรือความคิดเห็นของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองในเรื่องนี้
ปัจจุบันแม้พระราชวังบักกิงแฮมจะเปิดพื้นที่บางส่วนของวังให้สาธารณชนเข้าถึงได้ แต่ไม่ใช่ในช่วงที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองประทับอยู่ ขณะที่สวนด้านหลังพระราชวังไม่เคยเปิดเป็นพื้นที่สาธารณะมาก่อน มีเพียงการเปิดเฉพาะจัดงานในโอกาสพิเศษเท่านั้น เช่นเดียวกับปราสาทวินเซอร์ที่จะเปิดพื้นที่บางส่วนของวังให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม เมื่อไม่มีสมาชิกพระราชวงศ์หรือองค์พระประมุขประทับ ต่างกับปราสาทบัลมอรัลในสกอตแลนด์ หรือพระตำหนักซานดริงแฮมในมณฑลนอร์โฟล์ค ที่ทั้งสองล้วนเป็นพื้นประทับส่วนพระองค์ที่ไม่เคยเปิดต่อสาธารณะมาก่อน
"เจ้าชายประสงค์ให้ผู้คนและสถาบันพระมหากษัตริย์เชื่อมโยงใกล้ชิดกันมากขึ้น .. พระองค์ตระหนักดีกว่าต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้คนในปัจจุบันต้องการเข้าถึงเบื้องหลังรั้วของวังหลวงมากขึ้น พระองค์ทรงยินดีต้อนรับและมองว่า (วัง) ควรเป็นสถานที่สาธารณะมากกว่าพื้นที่ส่วนตัว" แหล่งข่าวของราชวงศ์กล่าว
ตามแผนระบุว่า พระราชวังอันเป็นที่ประทับทั้งหมดจะถูกเปิดให้ประชาชนเข้าใช้พื้นที่ได้ รวมถึงสวนด้านหลังพระราชวังบักกิงแฮมแม้จะมีสามาชิกพระราชวงศ์ประทับอยู่ หากเจ้าฟ้าชายชาล์รส์ขึ้นครองราชย์ในอนาคต ที่ผ่านมาบางห้องภายในพระราชวังนั้นมีการเปิดจัดทัวร์สำหรับผู้เข้าชมปีละหนึ่งเดือนเท่านั้น ทว่าช่วงสองปีที่ผ่านมา พระราชวังบักกิงแฮมรวมถึงปราสาทวินเซอร์ ไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมเนื่องจากการระบาดของโควิด-19
สำหรับพระราชวังบักกิงแฮม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงครั้งใหญ่ด้วยงบประมาณถึง369 ล้านปอนด์ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570 โดยอนาคตเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงพิจารณาจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าใช้พื้นที่สวนด้านหลังพระราชวังได้ตลอดทั้งเมื่อทรงขึ้นครองราชย์ในอนาคต
ก่อนหน้านี้ ยังมีรายงานว่าเจ้าชายชาร์ลส์ ทรงมีแผนปรับลดขนาดของสมาชิกพระราชวงให้มีขนาดเล็กลง คล้ายกับรูปแบบที่สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ แห่งสวีเดน ทรงให้พระราชนัดดาบางพระองค์ ออกจากฐานันดรศักดิ์ เพื่อให้พระราชนัดดาเหล่านั้นสามารถมีชีวิตอิสระไม่ต่างจากสามัญชนเนื่องจากไม่จำเป็นต้องรับเงินอุดหนุนจากรัฐ แต่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์สวีเดนอยู่ เพื่อลดขนาดสถาบันกษัตริย์ให้เล็กลงเพื่อให้รัฐนำงบประมาณไปใช้ในส่วนอื่นๆ ได้มากขึ้น
