นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด -19 ประจำวันเสาร์ที่ 22 พ.ค. 2564 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,052 ราย เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 2,406 ราย

แบ่งเป็นติดเชื้อจากระบบเข้าร่วมบริการ 1,924 ราย ค้นหาเชิงรุก 482 ราย ติดจากเรือนจำและสถานที่กักขัง 605 ราย ต่างประเทศ 41 ราย รักษาตัวอยู่ 42,955 ราย อาการหนัก 1216 รายใส่เครื่องช่วยหายใจ 409 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 24 ราน รวมผู้เสียชีวิต 759 ราย 

ส่วนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 24 ราย เป็นชาย 12 ราย หญิง 12 ราย อายุระหว่าง 31 ถึง 96 ปี โดยแบ่งเป็น กรุงเทพฯ 13 ราย สมุทรปราการ 3 ราย เชียงใหม่และราชบุรีจังหวัดละ 2 ราย นนทบุรี สุราษฎร์ธานี ยโสธร นครนายก จังหวัดละ 1 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไตเรื้อรัง ไขมันในเลือดสูงหัวใจ โรคอ้วน มะเร็ง โรคปอดเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมองตั้งครรภ์ 

ส่วนผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ จำนวน 41 ราย เดินทางกลับต่างประเทศเป็นมาเลเซีย 2 คน มัลดีฟส์ 2 รายซาอุดิอาระเบีย 1 ราย ฟิลิปปินส์ 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย กัมพูชา 35 ราย ทั้งหมด ผ่านแดนด่านถาวร สถานบันเทิง ทำงานโรงแรม ซึ่งทั้งหมดเป็นสัญชาติไทย 

ด้านสถิติการลักลอบเข้าเมืองรายวันในวันนี้ มีการลักลอบเข้าเมือง 191 คน ลักลอบเข้าจากชายแดนลาว 19 คน ชายแดนเมียนมา 65 คน กัมพูชา 64 คน โดยเน้นย้ำว่าขอให้เข้ามาอย่างถูกต้อง ผู้ที่เดินทางกลับเข้ามาจะมีการกักตัวในสถานที่กักตัวในรูปแบบเฉพาะองค์กรหรือโอคิว ของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อยตชด. 136 อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี กองร้อยตชด.ที่ 146 อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กอง ตชด. 344 อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก กองร้อยตชด. 345 อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก กองร้อยตชด. 346 อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยแต่ละแห่งสามารถรองรับได้ 50 ราย

โดยรายงานผู้ติดเชื้อ 10 อันดับแรก ประกอบด้วยกรุงเทพฯ 1191 ราย เพชรบุรี 437 รายนนทบุรี 99 ราย สมุทรปราการ 94 ราย ชลบุรี 71 ราย ปทุมธานี 68 ราย สมุทรสาคร 49 ราย 43 ราย ราชบุรี 29 ราย ตาก สงขลาสุราษฎร์ธานี และนครปฐม จังหวัดละ 20 ราย

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำหรือสถานกักขังมีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 605 ราย ทำให้ยอดรวมทั้งหมด 15,153 ราย ส่วนการติดเชื้อนอกเรือนจำอยู่ที่ 2,406 ราย รวมยอดสะสม 81,576 ราย

ส่วนการติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลในวันนี้ อยู่ที่ 1,521 ราย ซึ่งสถานการณ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากมีการติดเชื้อและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสังคมในกรุงเทพฯที่มีความแออัดมีความซับซ้อนของสังคม จึงไม่แปลกที่มีการติดเชื้อกระจายจำนวนมากในพื้นที่

โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลในวันนี้พบผู้ติดเชื้อ 1191 ราย แบ่งเป็นระบบค่าบริการเป็นคนไทย 702 ราย แรงงานต่างด้าว 189 ราย การตรวจเชิงรุก เป็นคนไทย 113 รายแรงงานต่างด้าว 187 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมกรุงเทพฯและปริมณฑล 32,762 ราย จากระบบเฝ้าระวังบริการเป็นคนไทย 23,062 ราย แรงงานต่างด้าว 3,131 ราย การค้นหาเชิงรุก เป็นคนไทย 4,543 ราย แรงงานต่างด้าว 2,024 ราย

ส่วนการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดชลบุรีกระจายอยู่ใน 8 อำเภอ มีผู้ป่วยรายใหม่ 422 ราย เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติไทย พม่า กัมพูชา อินเดีย และจีน ส่วนจังหวัดชลบุรี อยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองชลบุรี และพานทอง มีผู้ป่วยรายใหม่ 14 ราย ในพื้นที่ตลาดใหม่ และ 7 ราย ในโรงงานสายไฟสัญชาติไทยพม่ากัมพูชา ปทุมธานีกระจายในกรุงเทพฯปทุมธานี นนทบุรี อยุธยา จำนวน 106 ราย อยู่ในพื้นที่ตลาดสี่มุมเมือง จังหวัดยะลาแพร่ระบาดในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดยะลาจำนวน 20 ราย อยู่ในศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน จังหวัดมหาสารคามกระจายอยู่ในอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จำนวน 15 ราย ซึ่งเป็นการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ชุมชน

ส่วนผลการตรวจเชิงรุกทางห้องปฏิบัติการสนามกีฬาธูปะเตมีย์ จำนวน 1134 คน พบติดเชื้อ 14 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.23 ส่วนการตรวจเชิงรุก ในพื้นที่ตลาดบางกะปิจำนวน 845 คน พบติด 137 คิดเป็นร้อยละ 16.21 โดยขอให้ประชาชนรอบข้างตลาดบางกะปิให้ความร่วมมือกับทางทีมงานและต้องดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลล้างมือบ่อยๆสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แฟลตศรีวรจักร คลองถม พบติดเชื้อ 47 คน คิดเป็นร้อยละ 5.15 ตลาดกลางดินแดงตรวจ 745 คนติดเชื้อ 36 รายคิดเป็นร้อยละ 4.83 แคมป์คนงานอิตาเลียนไทยหลักสี่ตรวจ 750 คน ติดเชื้อ 16 รายคิดเป็นร้อยละ 2.13 ศบส. ตรวจ 223 คน ติดเชื้อ 15 รายคิดเป็นร้อยละ 6.72 รวมตรวจ 4608 คน พบติดเชื้อ 268 ราย คิดเป็นร้อยละ 5.75

ส่วนคลัสเคอร์ที่ต้องมีการเฝ้าระวังจำนวน 28 แห่ง โดยกลุ่มคลัสเตอร์ที่พบใหม่ประกอบด้วยเขตคลองเตย แคมป์ก่อสร้างบริษัทอิตาเลียนไทย ทั้ง 2 ที่ เขตห้วยขวาง แคมป์ก่อสร้างบริษัทอิตาเลียนไทย เขตบางคอแหลม แคมป์ก่อสร้างทวีพร เขตปทุมวัน แคมป์ก่อสร้างโปโล เขตบางรัก แคมป์ก่อสร้างฤทธา วันนี้ได้มีการหารือกันในที่ประชุม ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องส่งข้อมูลซึ่งศปก.ศบค.ได้มอบหมายให้ทางกรุงเทพฯชี้แจงในที่ประชุม 

ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ ยังระบุอีกว่า แรงงานต่างด้าวในแคมป์คนงานทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ประเทศไทยต้องได้รับการตรวจและดูแลเหมือนกันหมด โดยขอให้ประชาชนที่เป็นทั้งคนไทยและต่างด้าวซึ่งมีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์ แสดงตัวหากสงสัยว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงอยู่ในพื้นที่ หากต้องการตรวจให้เดินทางไปที่หน่วยงานสาธารณสุขที่อยู่ใกล้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ตรวจ

ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีน นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า วัคซีนเข้ามายังไทยตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ถึง 20 พ.ค. จำนวน 6 ล้านโดส แต่มีการกระจายลงพื้นที่จริงๆ 3.6 ล้านโดส ซึ่งมีการฉีดไปแล้ว 2.7 ล้านโดส โดย 4 แสนโดส อยู่ระหว่างการจัดส่งลงพื้นที่ และอีก 2 ล้านโดส กำลังอยู่ระหว่างการตรวจคุณภาพการผลิต โดยขอความร่วมมือประชาชนเข้าไปศูนย์บริการฉีดวัคซีนแต่ละจังหวัด โดยขณะนี้ สสจ. จังหวัดกำลังทำกระบวนการฉีดวัคซีนอยู่