ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรีอิตาลีเตรียมพาประเทศเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 'แถบและทาง' (Belt and Road) เพื่อส่งออกสินค้า Made in Italy เข้าสู่ตลาดจีนหลังภาวะเศรษฐกิจถดถอย

นายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี กล่าวว่า อิตาลีจะลงนามในกรอบข้อตกลงในโครงการแถบและทาง (Belt and Road) ของจีน ในระหว่างที่นายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางเยือนอิตาลี ขณะที่นายคอนเตมีแผนจะเข้าร่วมการประชุม Belt and Road Summit ที่จะจัดขึ้นที่จีนในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ด้วย


"การเข้าร่วมในโครงการเส้นทางสายไหมใหม่จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่อิตาลี" นายคอนเตกล่าว


ทางด้านนายมิเชลเล เกอราซี เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของอิตาลีกล่าวกับ Financial Times ว่า ข้อตกลงระหว่างอิตาลีกับจีน อาจจะมีการลงนามกันในช่วงการมาเยือนของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงในช่วงเดือนปลายเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้

"ทางอิตาลีต้องการให้ผลิตภัณฑ์ Made in Italy ประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อเติบโตเร็วที่สุดในโลก"

ทั้งนี้ หากมีการลงนามในข้อตกลงระหว่างอิตาลีกับจีนในฐานะเป็นพันธมิตรส่วนหนึ่งของโครงการแถบและทางของจีน อิตาลีจะเป็นประเทศในกลุ่ม G7 หรือ กลุ่มประเทศผู้นำอุตสาหกรรมประเทศแรกที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวของจีน

นิกเคอิเอเชี่ยนรีวิว วิเคราะห์ว่า อิตาลีกำลังหาทางออกให้กับปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวและการลงทุนของจีนอาจจะทำให้เศรษฐกิจของอิตาลีฟื้นตัวขึ้นมาได้อีกครั้ง 

อย่างไรก็ตาม อิตาลีไม่ใช่ชาติแรกในกลุ่มประเทศยุโรปที่ลงนามระดับทวิภาคีในโครงการ Belt and Road ซึ่งที่ผ่านมามีสาธารณรัฐเช็ก ฮังการี กรีซ มอลตา โปแลนด์ และโปรตุเกสที่เป็นส่วนหนึ่งโครงการดังกล่าวของจีน ขณะที่เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สเปนได้ปฏิเสธข้อตกลงที่ทางจีนเสนอให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดังกล่าว แต่หันไปรวมกลุ่มกับสหภาพยุโรปในยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างอียูและประเทศแถบเอเชีย (EU-Asian) แทน

ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปแสดงความกังวลต่อประเทศในเอเชียและแอฟริกาที่เป็นพันธมิตรและเข้าร่วมในโครงการ Belt and Road ของจีน โดยมีการเตือนเรื่อง 'กับดักหนี้' ที่ประเทศภาคีของจีนต้องแบกรับในจากการกู้เงินจัดทำโครงการพัฒนาเส้นทางคมนาคมในประเทศตัวเอง เพื่อรองรับการขยายตัวของโครงการดังกล่าวของจีน

ที่มา CNN / New Europe