ไม่พบผลการค้นหา
ทนายความ ขอสังคมจับตาผู้มีอำนาจแจ้งความจับเยาวชน ด้านแกนนำนักเรียนเลว ยืนยัน เคลื่อนไหวต่อแน่นอน พร้อมปฏิเสธข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และจะสู้คดีให้ถึงที่สุด

ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร หรือ สถานพินิจ ธนบุรี ตลิ่งชัน แกนนำกลุ่มนักเรียน ที่เคลื่อนไหวและทำกิจกรรมทางการเมือง 3 คน ประกอบด้วย ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ” หรือ “มิน” พร้อมด้วย "น้องพลอย" แกนนำกลุ่มนักเรียนเลว และ "ภูมิ" สมาชิกกลุ่มนักเรียนไท เข้าพบผู้คุมประพฤติตามนัด เพื่อสอบประวัติประกอบการส่งสำนวนของอัยการเพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาล โดยมี คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย และเป็นทนายความผู้ดูแลคดีนี้ของนักเรียนทั้ง 3 คน

หลังจากทั้ง 3 คน ถูกพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ออกหมายเรียกและได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ตามความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากการปราศรัยในเวทีชุมนุมเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม บริเวณแยกราชประสงค์

นักเรียนเลว

ลภนพัฒน์ กล่าวว่า ผู้มีอำนาจรัฐอยู่ในสถานะคู่ขัดแย้ง กับเยาวชนและไม่ควรดำเนินคดีกับเยาวชนที่ออกมาใช้สิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยตนและเพื่อน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน รวมถึง จะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุดและจะไม่รับเงื่อนไขพิเศษในฐานะที่เป็นเยาวชนหากต้องถูกลงโทษ 

นักเรียนเลว

น้องพลอย ยืนยันว่า แม้ต้องโดนคดีความ แต่จะไม่หยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะเชื่อว่า แม้ไม่ออกมาร่วมชุมนุมหรือปราศรัยหาผู้มีอำนาจรัฐจะยัดคดีให้ก็สามารถทำได้อยู่ดี ดังนั้น การโดนคดีนี้ จึงไม่มีผลกับการทำกิจกรรมทางการเมืองของตนในอนาคตอย่างแน่นอน เพียงแต่สร้างภาระหรือทำให้ตนและเพื่อนๆเสียเวลาในการเรียนหรือใช้ชีวิตตามปกติเท่านั้น

คุ้มเกล้า อธิบายถึงกระบวนการดำเนินคดีขั้นตอนต่างๆ ของเยาวชนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงต้องให้ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติสอบประวัติต่างๆด้วย พร้อมเรียกร้องให้สื่อมวลชนและสังคม จับตาการดำเนินคดีกับเยาวชน ที่แสดงออกทางการเมือง โดยเฉพาะคดีอาญาที่มีโทษสูง เช่น ข้อหายุยงปลุกปั่นตามกฎหมายอาญามาตรา 116 ซึ่งระยะหลังผู้มีอำนาจ เริ่มดำเนินคดีกับเยาวชนแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้เคยบอกว่า จะไม่ดำเนินคดีกับเยาวชนก็ตาม

นักเรียนเลว