ไม่พบผลการค้นหา
ทนายปู่คออี้ ให้การเพิ่มที่ สภ.แก่งกระจาน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมให้เรียกตำรวจเรียกพยานเพิ่ม 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นอดีตกรรมการสิทธิฯ หลังจากถูก 'ชัยวัฒน' อดีตหัวหน้าอุทยานกล่าวหาแจ้งความเท็จ หาว่าเจ้าหน้าที่อุทยานเผาบ้านกะเหรี่ยงปี 2554

เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา วราภรณ์ อุทัยรังษี ทนายความปู่คออี้ มีมิ และทนายความในคดีอุ้มหาย-พอละจี รักจงเจริญ เดินทางมายื่นคำให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ในคดีที่วรภรณ์ถูกชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แจ้งความในข้อหา แจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายฯ 

เหตุสืบเนื่องจากวราภรณ์ ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจแทนปู่คออี้ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเผาไล่รื้อหมู่บ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เมื่อปี 2558 

เบื้องต้น วราภรณ์ให้การยืนยันปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และได้ทำคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือยื่นต่อพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันว่าที่พาปู่คออี้มาแจ้งความที่ สภ.แก่งกระจานเมื่อปี 2558 ไม่ได้เป็นการแจ้งความเท็จ และขอให้พนักงานสอบสวนสอบพยานในฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม 3 คน เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงในคดี ได้แก่ คณะทำงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กรณีชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ที่แต่งตั้งโดยสภาทนายความ เมื่อ 26 ต.ค.2554 จำนวน 2 คน และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 1 คน โดยพนักงานสอบสวนจะนัดวันที่ให้พยานทั้ง 3 คนเข้ามาให้การต่อไป

ทั้งนี้ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ และให้ดำเนินคดีกับวราภรณ์ ในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย , แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, แจ้งข้อความตามมาตรา 172 หรือมาตรา 173 เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น และกระทำความผิดตามมาตรา 174 ในกรณีแห่งข้อหาว่าผู้ใดกระทำความผิดที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 , 172 , 173 , 174 วรรค 2 และ 181 และตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 

ชัยวัฒน์ระบุว่า มูลเหตุในการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้เกิดจาก เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2558 ปู่คออี้ และนางสาววราภรณ์ ผู้รับมอบอำนาจจากปู่คออี้ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ และให้ดำเนินคดีอาญากับนายชัยวัฒน์และพวก ในกรณีเผาไล่รื้อหมู่บ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจานเมื่อวันที่ 5-9 พ.ค.2554 ทำให้ที่อยู่อาศัย ยุ้งฉาง และทรัพย์สินของชาวบ้านได้รับความเสียหายนั้นไม่เป็นความจริง โดยอ้างว่าในความจริงนั้น เพิงพักที่ได้มีการจุดไฟเผา เป็นเพิงพักร้างที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยแล้ว อีกทั้งยังมีพยานหลักฐานว่า การเผาเพิงพักเหล่านั้น ไม่ได้กระทำในวันที่ 5-9 พ.ค. 2554 ตามที่ได้มีการกล่าวอ้าง จึงเป็นการแจ้งความเท็จ