ไม่พบผลการค้นหา
จุรินทร์หารือทูตหลังเจอมาตรการกีดกันทางการค้า ยา-หมู-น้ำตาล หวังปี 2564 มูลค่าการค้าร่วมกันโต 750,000 ล้านบาท

'จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจง หลังเข้าหารือกับ 'ฟาน จี๊ ทัญ' เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย หลังเจอมาตรการกีดกันทางการค้ากับ 'ยารักษาโรค-สุกร-น้ำตาล'

จากการหารือได้ขอให้เวียดนามแก้ปัญหาการค้าไทยเวียดนาม อาทิ ขอให้เวียดนามทบทวนการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) และตอบโต้การอุดหนุน (ซีวีดี) สินค้าน้ำตาลทรายที่นำเข้าจากไทย ส่งผลให้มีการจัดเก็บภาษีนำเข้าน้ำตาลจากไทยจากปกติเก็บ 5% บวกเพิ่ม 46% รวมเป็น 51%

ไทยยังได้ขอให้เวียดนามผ่อนคลายกฎระเบียบหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนยา ที่มีความซับซ้อนให้เป็นมาตรฐานอาเซียนหรือองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อช่วยการส่งออกยาไปเวียดนาม

กรณีสุกร ขอให้ช่วยประสานทางการเวียดนามให้ผ่อนคลายมาตรการ เพื่อให้สุกรคุณภาพจากไทยส่งออกไปเวียดนามได้สะดวก โดยยืนยันว่าไทยเข้มงวดเรื่องสุขอนามัยและการส่งออกมาก และมีการตรวจสอบทุกล็อต


การค้าไทย-เวียดนาม

การค้าไทย-เวียดนามในปี 2563 ที่ผ่านมา มีมูลค่า 517,524 ล้านบาท โดยไทยส่งออกไปเวียดนาม 346,063 ล้านบาท ซึ่งเวียดนามถือเป็นคู่ค้าอันดับ 6 ของไทยในโลก และเป็นลำดับ 3 ในอาเซียน

ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค.-เม.ย.) การค้าไทย-เวียดนามเพิ่มขึ้นถึง 20% และมองว่า มูลค่าการค้าร่วมกันปีนี้ จะโตได้ถึง 750,000 ล้านบาท

สินค้าที่ไทยส่งออกไปเวียดนามส่วนมากเป็นรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ และสินค้าที่เวียดนามส่งมาไทย เช่น โทรศัพท์มือถือ น้ำมันดิบ เป็นต้น

ด้าน 'ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์' ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า การส่งออกไทยปี 2564 มีแนวโน้มโตกว่าเป้า 4% โดยสินค้ากลุ่มอาหาร เป็นสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิตมีอัตราการเติบโตสูง

ส่วนการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน การทำงานและเรียนระยะไกล และการใช้ชีวิตในที่พักอาศัยมากขึ้น ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศเตาอบไมโครเวฟ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และถุงมือยาง คาดว่าจะเติบโตตลอดปีนี้ และต่อเนื่องถึงปีหน้า จนกว่าการฉีดวัคซีนจะกระจายได้ทั่วถึง