ไม่พบผลการค้นหา
"วิษณุ" เผย ยังไม่มีสัญญาณ ปรับ ครม.จากนายกรัฐมนตรี บอกหากปรับ ต้องแจ้งล่วงหน้า เพราะเป็นรัฐบาลผสม ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงเสนอทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วันทำได้ แต่ต้องหารือทีมแพทย์ก่อน ย้ำต่อ-ไม่ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ที่ความเหมาะสมไม่มีใครได้ประโยชน์

วันที่ 10 มิ.ย. 2563 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบกระแสข่าวจะมีการปรับ ครม.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เคยพูดแต่ยอมรับเมื่อวาน ได้พูดในที่ประชุม ครม. ว่าการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสัญญาหรือสัญญานใดๆ และการปรับ ครม.จะให้รัฐมนตรีเซ็นต์ใบลาออกล่วงหน้า ส่วนใหญ่เป็นพรรคการเมืองทำ ไม่เคยมีรัฐบาลทำและคงไม่กล้าทำ เพราะเป็นรัฐบาลผสมที่มีหลายพรรคร่วม แต่การเซ็นต์ใบลาออกล่วงหน้ากับพรรค บางพรรคก็ทำ บางพรรคก็ไม่ทำ ซึ่งพรรคที่ทำ อาจทำด้วยเจตนาดี ถ้าเกิดฉุกเฉิน หากจำเป็นต้องปรับแล้วเจ้าตัวอยู่ต่างประเทศ 

พร้อมกันนี้ นายวิษณุ ไม่ตอบว่าสถานการณ์ปัจจุบันเหมาะหรือไม่ที่จะปรับ ครม.ซึ่งการปรับ ครม.แต่ละครั้ง มีทั้งแบบล่วงหน้า คือ ให้เขียนใบลาออกและมีแบบไม่แจ้ง แต่นำขึ้นกราบบังคมทูลให้พ้นจากตำแหน่งเหมือนปลดออก และแจ้งล่วงหน้าแต่ไม่บอกว่าจะปรับเมื่อใด ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้แบบใด เคยเขียนไว้ในหนังสือว่านายกรัฐมนตรีบางคนไม่แจ้งล่วงหน้า ซึ่งตนเป็นเลขา ครม.ได้บอกนายกรัฐมนตรี ว่าควรจะบอกเจ้าตัว ให้ยื่นใบลาออก 

นายวิษณุ บอกด้วยว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ตนเป็นรองนายกรัฐมนตรี สมัย คสช.จะแจ้งล่วงหน้าทุกครั้ง ที่มีการปรับ ครม.เพราะมาด้วยกันและไม่ได้เป็นพรรคการเมือง แต่ที่ยากคือพรรคการเมือง เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและเป็นรัฐบาลผสม ถ้าจะปรับ ครม.แล้วไม่แจ้ง ควรจะแจ้งพรรคการเมือง เผื่อพรรคอยากจะเปลี่ยนตัวบุคคล ทั้งนี้นายวิษณุ ยังพูดทีเล่นทีจริง ว่าการเมืองในช่วงนี้ไม่ได้สนุก ดูละคร สนุกกว่าเยอะ

ทดลองเลิกเคอร์ฟิวได้ แต่ต้องหารือทีมแพทย์

นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังระบุถึงการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เสนอให้พิจารณาทดลองยกเลิกเคอร์ฟิวเป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-30 มิ.ย.นี้ ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดมาก่อน แต่เมื่อได้ข้อสรุปจากการประชุมวันนี้แล้ว ก็จะรายงานให้นายกรัฐมนตรีให้ทราบพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) อย่างไรก็ตามมองว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้อยู่แล้วในทางกฎหมาย แต่ในทางสาธารณสุขต้องปรึกษาบุคลาการท่องแพทย์ด้วย

ส่วนข้อเสนอให้เปิดสนามมวยแต่ไม่มีผู้ชม ใช้วิธีถ่ายทอดผ่านระบบออนไลน์แทนนั้น เรื่องนี้แล้วแต่คณะกรรมการพิจารณาตามความเหมาะสม

นายวิษณุ ยังกล่าวว่า หากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะมีกฎหมายปกติเข้ามาดูแลสถานการณ์แทน ทั้ง พ.ร.บ.โรคติดต่อที่เป็นกฏหมาย หลักในการทำงาน รวมถึงพ.ร.บ.การเดินอากาศ และพ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ร.บ.ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย และพ.ร.บ.ว่าด้วยระเบียนการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งกฎหมายเหล่าถูกใช้ก่อนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือตั้งแต่ 13 ม.ค. ที่พบผู้ป่วยคนแรกในไทย

ดังนั้นหากยกเลิกก็กลับมาใช้กฎหมายเหล่านี้ แต่ยอมรับมีช่องโหว่ทางกฎหมายอยู่จึงต้องเรียนรู้และแก้ไขปัญหา แต่ทั้งนี้หากจะใช้มติ ครม. ก็จะทำได้เพียงการบูรณาการเชื่อมการทำงานระหว่างจังหวัดเท่านั้น แต่จะใช้ในการกำหนดมาตราการหนักเช่น การประกาศเคอร์ฟิวไม่ได้ 

ทั้งนี้ ย้ำว่าเคยอธิบายมาหลายครั้งแล้วว่าแนวทางสำคัญของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมี 3 แนวทาง หลักๆ คือ 

1. การคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้

2. ยกเลิกการประกาศใช้

3. คงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ แต่ผ่อนคลายมาตราการหลายอย่างภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่น เคอร์ฟิว

อย่างไรก็ตาม นายวิษณุยืนยันว่าการพิจารณายกเลิกหรือคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นจะพิจารณาตามความเหมาะสมเป็นหลัก เพราชการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ทำให้ใครได้ประโยชน์

นายวิษณุ ยังระบุ ไม่ต้องกังวลกับเรื่องดังกล่าว เพราะหากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วสถานการณ์รุนแรงขึ้นอีก ก็ประกาศใช้ใหม่ได้ ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร และยืนยันว่าไม่มีกฎหมายพิเศษอื่นที่จะมาดูแลสถานการณ์ในขณะนี้ได้ เพราะกฎหมายพิเศษอื่นๆ เช่น การประกาศกฎอัยการศึก หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคงจะใช้ในกรณีที่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ียวข้อง