พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสา “ปันสุข ปลูกรัก” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค. 2563 ที่สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด จ.นนทบุรี 

เพื่อปลูกฝังการทำความดี มีจิตอาสาให้เด็กในสถานสงเคราะห์ ซึ่งก่อนเริ่มงาน นายกรัฐมนตรี ได้ฟังเพลง "คิดดี ทำดี" จากเด็กๆ พร้อมขอให้เล่นเพลงจังหวะสนุกเพิ่มเติม ซึ่งเด็กได้เล่นเพลง ปูไข่ไก่หลง แต่เด็กๆ จำเนื้อร้องไม่ได้ นายกรัฐมนตรี จึงบอกว่า เพลงนี้มีเนื้อร้องว่า “ช่างเถอะคนงาม ขอปล่อยตามตามวาสนา” 

นายกรัฐมนตรี นำผู้ร่วมพิธีกล่าวถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค. 2563

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลและเอกชนได้น้อมนำแนวทางจิตอาสาพระราชทาน เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพื่อจัดกิจกรรมจิตอาสา ปันสุข ปลูกรัก เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมกันทำประโยชน์สาธารณะ ร่วมกันทำความดี ช่วยเหลือแบ่งปันแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นการสนองพระราชปณิธานและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ ที่พระพันปีหลวง ทรงมีพระเมตตา ห่วงใยราษฎรมาตลอดระยะเวลายาวนาน ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนทุกหมู่เหล่า 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวกับเด็กๆ และผู้ร่วมงานว่า มีความสุขที่ได้มาพบกับเด็กๆ ที่ทุกคนถือเป็นอนาคตของประเทศ โดยได้รับฟังคำสัญญาจากเด็กๆ ที่จะเป็นคนดีเป็นกำลังของประเทศ ทั้งนี้รัฐบาลห่วงเรื่องการศึกษาที่วันนี้จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนให้ทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมสิ่งที่เราได้ผ่านมา หลายคนอาจเป็นเด็กที่เติบโตมาในยุคใหม่ ซึ่งอาจยังไม่เข้าใจความเป็นมาขั้นพื้นฐานของประเทศ จึงของฝากครู ผู้ปกครองและทุกคน ช่วยกันสร้างการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ ซึ่งรัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างครอบคลุมเด็กทุกกลุ่ม ผ่านความร่วมมือของทุกกระทรวงอย่างจริงจัง และสิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ สังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามโลก แต่ขอทุกคนอย่าลืมความเป็นไทย ที่เป็นสิ่งที่ดีงาม 

พร้อมย้ำว่าที่มาวันนี้เพื่อยืนยันว่าตนจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีอนาคตที่ดีงาม มีอาชีพที่ดี และวันนี้เด็กๆทุกคนถือว่าอยู่ในกลุ่มเปราะบาง จึงขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกคนจะดูแลซึ่งกันและกัน จึงขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ดูแลเด็กเป็นอย่างดี ซึ่งเด็กทุกคนมีหน้าที่เรียนและต้องรักษาวินัย เพื่อวันหน้าจะได้ร่วมกันพัฒนาประเทศให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ทุกคนทำได้ โดยไม่ต้องมีใครบังคับ คือการทำความดีเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจทุกคน และการทำความดี ต้องไม่มีใครบังคับ และต้องทำด้วยหัวใจ เพราะเราคือคนไทย อยู่ในแผ่นดินที่เรารัก หวงแหน มีบรรพบุรุษ มีสถาบันได้สร้างไว้ให้เรา ดังนั้นต้องสืบสานต่อไปในอนาคต ดังนั้นสิ่งใดที่ไม่เกิดประโยชน์ และรู้ว่าอะไรควรไม่ควรก็ต้องนำไปสู่การปฏิบัติ วันนี้ประเทศไทยต้องไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น ซึ่งใครที่รักประเทศไทยและสำนึกในแผ่นดินที่เกิด ก็ต้องทำเพื่อแผ่นดินนี้ ที่บรรพบุรุษได้เสียสละรักษาไว้ หลังจากนี้อยู่ที่ทุกคนจะรักษาแผ่นดินนี้ไว้ 

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าการเดินหน้าประเทศวันนี้ต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายและการขับเคลื่อนทุกอย่างต้องอาศัยความร่วมมือ ส่วนเรื่องใดที่ยังมรปัญหา รัฐบาลพร้อมรับฟังและแก้ไข และวันนี้อยากให้ประเทศชาติสงบสุขที่สุด เกิดความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้ความเป็นธรรม และดูแลประชาชนทุกกลุ่ม 

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงสำคัญ เพราะต้องขับเคลื่อนประเทศท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง ควบคู่กับสถานการณ์โควิด-19 และถึงแม้จะยังไม่ทราบว่ายาวนานถึงเมื่อไหร่ แต่รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เพื่อทุกคน 

นายกรัฐมนตรีและภริยา มอบถุงปันสุข ซึ่งเป็นสิ่งของจำเป็นเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ให้กับตัวแทนเด็กในสถานสงเคราะห์ นอกจากนี้ ยังพูดคุยกับเด็กพิการทางการพูด รับฟังแบบจำลองคลินิกแม่เลี้ยงเดียว ร่วมปล่อยปลา ปลูกพืชผักสวนครัว และเพาะเห็ด ด้วย