ไม่พบผลการค้นหา
ทักษิณ เปิดพอดแคสต์ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ชี้เศรษฐกิจโลกปี 2019-20 จะกระทบรายย่อย ต้องไม่ให้หุ่นยนต์แย่งงานแต่คนต้องฉลาดกว่า และอนาคตมนุษย์จะอายุยืน จากการพัฒนาของเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ พร้อมแนะปรับตัวรูปแบบเศรษฐกิจ, การดูแลผู้คน และด้านสวัสดิการให้รองรับการเปลี่ยนแปลงนี้

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เผยแพร่บทความในเว็บไซต์ thaksinofficial ใน Good Monday โดยวันนี้่ (14 ม.ค.) เป็นบทความแรก ชื่อว่า "รู้ทันเพื่อรับมือกับโลก 2020" 


9179814574495.jpg


โดยนายทักษิณ แสดงความเป็นห่วงว่า เศรษฐกิจปลายปีนี้ (62) ต่อด้วยต้นปีหน้า ค.ศ. 2020 (63) ที่ทุกคนหวังจะทำอะไรหลายๆ อย่างสำเร็จ แต่ด้วยวัฏจักรของระบบการเงินโลก ทำให้เศรษฐกิจโลกจะมีปัญหา อ่อนแอลง หรือว่าเกิดภาวะวิกฤต ซึ่งจะเป็นแรงกระแทกใหม่ต่อเศรษฐกิจไทย หนีไม่พ้นเพราะเราคือส่วนหนึ่งของโลก 

ซึ่งผู้รู้พูดกันว่าอาจจะเริ่มเกิดที่แถวยุโรปตะวันออกก่อน เพราะว่าเศรษฐกิจอ่อนแออยู่แล้ว และธนาคารของประเทศเหล่านี้เป็นธนาคารเล็กๆ ด้านทางสหรัฐฯ ปีหน้า (63) จะเริ่มอ่อนตัวลงเช่นกัน ทำให้เป็นห่วงประเทศไทย เพราะยังไม่มีการปรับตัว และอ่อนแออยู่แล้ว โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานล่างที่อ่อนแอมาก 

แต่ไม่ว่าระบบการเงินโลก ระบบเทคโนโลยี หรือวิธีการทำมาหากินด้วยโครงสร้างทางธุรกิจแบบใหม่ ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปรับตัว ถ้าไม่ปรับตัวจะลำบากได้ บริษัทระดับโลกหากินข้ามชาติมาถึงไทย บริษัทระดับชาติของไทยลงไปหากินข้ามจังหวัดจนถึงชนบท เพราะฉะนั้นคนตัวเล็กๆ ในชนบทจะเริ่มทำมาหากินลำบาก คนตัวเล็กๆ ขนาดกลางจะเพิ่มเหนื่อย เพราะถ้าไม่ใหญ่จริงจะรอดยาก ทางเดียวที่จะรอดได้คือ ต้องปรับตัวให้คนข้างล่างรวมตัวกันแข็งแรง 

ส่วนเรื่องหุ่นยนต์นั้น มีคนทำนายว่าปี 2045 หุ่นยนต์จะมีความฉลาดเท่ากับมนุษย์ มีสมองเท่ากับสมองเฉลี่ยของโลก เพราะถูกใส่โปรแกรมให้หุ่นยนต์เรียนรู้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นในประเทศที่ไม่เจริญทางเทคโนโลยีจะมองว่าหุ่นยนต์เป็นตัวแย่งคนทำงาน ส่วนประเทศที่มีความเจริญทางเทคโนโลยี จะมองว่าหุ่นยนต์จะช่วยทำให้คนสามารถทำงานที่สำคัญกว่าได้ 

สำหรับประเทศไทยควรฝึกคนให้เป็นนายหุ่นยนต์ อย่านั่งรอให้หุ่นยนต์ไล่ออกจากงาน ด้วยการฝึกการใช้โปรแกรมด้าน AI ควบคู่กับการฝึกใช้และบังคับหุ่นยนต์ อย่าคิดหนี 

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ ความรู้ใหม่ๆ ในการรักษาสุขภาพ ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก การรักษาโรคที่อาการ หรือรักษาที่ปลายทางมันล้าสมัย และเป็นการสิ้นเปลืองแล้ว แถมไม่ทำให้คนไข้ดีขึ้น เพราะโลกข้างหน้าจะมีการนำดีเอ็นเอ มาเป็นเครื่องมือประกอบ ในการวิเคราะห์ วิจัย เกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น อีกอย่างคือ เทโลเมียร์ จะเป็นตัวชี้วัดความมีสุขภาพดีของมนุษย์ได้ในอนาคต เพราะเมื่อเราเจ็บป่วย ขนาดของเทโลเมียร์นั้นจะหดสั้นลง 

และต่อไปมนุษย์จะมีอายุยืนยาวขึ้น การอยู่ให้มีคุณภาพ ไม่ให้เป็นภาระของลูกหลานจึงเป็นสิ่งที่ต้องดูแลกันเอง สังคมไทยต้องเตรียมสังคมของคนสูงอายุไว้ ต้องปรับตัวในเรื่องของการออกแบบเศรษฐกิจธุรกิจ ออกแบบเศรษฐกิจประเทศ ออกแบบการดูแลผู้คน และออกแบบสวัสดิการของมนุษย์