ไม่พบผลการค้นหา
'เรืองไกร' ยื่นหนังสือ กกต.ทวงถามความคืบหน้าสอบ 'อุตตม' ขาดคุณสมบัติการเป็นหัวหน้าพรรค พปชร. วอน 'ประยุทธ์' ชะลอตอบรับนั่งบัญชีรายชื่อนายกฯ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้ากรณีขอให้ตรวจสอบนายอุตตม สาวนายน เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก่อนเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ในมาตรา 16 หลังจากเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561 ได้ยื่นให้ กกต.ตรวจสอบไปแล้ว แต่ถึงวันนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจาก กกต.

นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้พบหลักฐานสำคัญที่ยืนยันประเด็นตามคำร้อง คือประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่องรับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2562 โดยมีข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ 2561 รวมอยู่ด้วย

โดยประกาศนายทะเบียนพรรคการเมืองดังกล่าว ระบุไว้ชัดเจนว่า กกต. มีมติเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2561 ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงตามวันเวลาก่อนหน้านี้ คือ พรรคพลังประชารัฐประชุมเลือกนายอุตตม ให้เป็นหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2561 ต่อมาวันที่ 4 ต.ค. 2561 นายอุตตม จึงไปยื่นคำขอจดจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐต่อ กกต. 

แต่ในข้อบังคับฯ ข้อ 12 ที่นายอุตตม นำไปยื่นต่อ กกต. เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2561 ระบุไว้ว่า “กรรมการบริหารพรรคการเมืองต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปี มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี นับแต่วันที่ได้รับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง หรือนับแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่พรรคการเมืองเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองชุดใหม่ แล้วแต่กรณี”

ข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อ 12 ดังกล่าว จึงเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต้องเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐด้วย ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏว่า นายอุตตมสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2561 จึงเป็นสิ่งพิสูจน์ได้ว่า การรับจดทะเบียนพรรคพลังประชารัฐตามมติ กกต. เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2561 นั้น นายอุตตม ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แต่อย่างใด

ดังนั้น การจดจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ จึงมีปัญหาที่ต้องพิจารณาว่า ชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 16 ประกอบข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ. 2561 ข้อ 12 หรือไม่  

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ กกต. ควรตรวจสอบโดยเร็วว่า นายอุตตม ขณะเป็นหัวหน้าพรรคได้เป็นสมาชิกพรรคตามข้อบังคับข้อ 12 ที่นำไปยื่นต่อ กกต. หรือไม่ หากนายอุตตมมีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค กกต.รับจดทะเบียนไปได้อย่างไร และเมื่อมีหลักฐานตามที่ร้อง กกต.ควรพิจารณาต่อว่า จะเพิกถอนการรับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ 

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะแคนดิเดตในบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ ควรทบทวนและชะลอการตอบรับจนกว่าเรื่องนี้จะมีความชัดเจน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :