ไม่พบผลการค้นหา
เพื่อไทย ประชุมกรรมการบริหารพรรค ปรับโครงสร้างการทำงานดึงคนรุ่นเก่าใหม่มาทำงานร่วมกัน เตรียมสู้ศึกเลือกตั้งท้องถิ่น ส่วนการชุมนุมวันที่ 14 ต.ค. นี้ไม่ห้ามหากมีสมาชิกพรรคไปร่วมด้วย

สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงทิศทางการทำงาน ของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย หลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ว่า เมื่อรัฐบาลไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ พรรคเพื่อไทย จะคิดใหม่ ทำใหม่อีกครั้ง ร่วมกับประชาชน ในการสรรหาโอกาส เพื่อต่อสู้วิกฤติ โดยพรรคเพื่อไทยจะเริ่มจากการปรับโครงสร้างการทำงานของพรรค เพื่อให้การบริหารจัดการกิจการทั้งภายในองค์กรและประสานกับภายนอก มีศักยภาพที่สอดรับกับสถานการณ์ 

โดยแบ่งบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบใหม่ เพื่อให้คณะกรรมการบริหารพรรค และผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ได้ทำหน้าที่กรรมการในองค์กรนำของพรรค ร่วมคิด ร่วมประสาน ทำงานกับแนวร่วมและเครือข่ายในทุกระดับ ผนึกกำลังจากรุ่นสู่รุ่นนำบทเรียนประสบการณ์ความรู้ของรุ่นผู้ใหญ่ กับศักยภาพความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความทันสมัยของการใช้ทักษะทางด้านเทคโนโลยี องค์ความรู้ที่กว้างไกลของ คนรุ่นใหม่เป็นสองกระแสพลังภายในพรรค ร่วมกันทำงาน  

ประเด็นปัญหาหลักที่พรรคเพื่อไทยจะเร่งให้ความสำคัญ มี 3 เรื่องหลักคือ 

  • การแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ที่จะร่วมมือกับประชาชนและภาคธุรกิจ ค้นหาและสร้างโอกาสใหม่ให้แก่ SME 
  • การร่วมขับเคลื่อนกับเครือข่ายทุกภาคส่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย รวมทั้งการผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มพลังฝ่ายประชาธิปไตยของประชาชน ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในทุกระดับเริ่มจากการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
  • การแก้ไขปัญหาทางด้านการศึกษา และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ สร้างรากฐานการพลิกเปลี่ยนประเทศในระยะยาว

ด้านประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้แบ่งคณะทำงานในด้านต่างๆไว้ 10 ด้าน ประกอบด้วย คณะทำงานกิจการสภา โดยมีหัวหน้าพรรค, เลขาธิการพรรค และสุทิน คลังแสง ประธานวิป, ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบ, คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ได้มอบหมายให้กิตติรัตน์ ณ ระนอง และพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นผู้รับผิดชอบ, คณะทำงานด้านนโยบายและวิชาการ ได้มอบหมายให้นพดล ปัทมะ เป็นผู้รับผิดชอบ, และมีการตั้งศูนย์ข้อมูลนโยบาย/วิชาการ ที่ให้เผ่าภูมิ โรจนสกุล ช่วยดูแล 

คณะทำงานด้านการสื่อสารการเมือง และกองโฆษก มอบหมายให้อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด และอรุณี กาสยานนท์ เป็นผู้รับผิดชอบ, คณะทำงานด้านการพัฒนาฐานสมาชิก มอบหมายให้ธนุศักดิ์ เล็กอุทัย และจักรพงษ์ แสงมณี รับผิดชอบ, คณะทำงานพัฒนาพื้นที่เลือกตั้ง มี หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค รับผิดชอบ, คณะทำงานบริหารและพัฒนากิจการพรรค เลขาธิการพรรค และธนุศักดิ์ เล็กอุทัย รับผิดชอบ, คณะทำงานด้านกฎหมาย มอบหมายให้ชูศักดิ์ ศิรินิล, คณะทำงานด้านต่างประเทศ มอบหมายให้นลินี ทวีสิน, และคณะทำงานเครือข่ายและแนวร่วมกลุ่มวิชาชีพต่างๆ มีหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค รับผิดชอบ 

ส่วนการเตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในการดำเนินการ เบื้องต้น พรรคเตรียมตั้งคณะอำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นในทุกระดับ ซึ่งหัวหน้าพรรคจะเป็นประธานคณะ และเลขาธิการพรรคจะรับหน้าที่เลขานุการคณะ เพื่อให้พร้อมทำงานทันทีที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งท้องถิ่น และเร็วๆ นี้ พรรคเพื่อไทยจะร่วมกับประชาชน หาวิธีรับมือมหาวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่กำลังมาถึง โดยพบกับทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ในงาน 'เพื่อไทย Talk' เรื่อง 'คิดใหม่ ทำใหม่ กู้มหาวิกฤติเศรษฐกิจไทย' ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 21 ต.ค.นี้ พร้อมทั้งจะจัดสัมมาพรรค ในปลายเดือน ต.ค.เพื่อระดมความคิดของสมาชิก หลังจากรับฟังปัญหาของประชาชน เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขให้กับประชาชน และถือเป็นการเตรียมพร้อมการทำงานให้กับ ส.ส. ทั้งในและนอกสภา

ส่วนการส่งผู้สมัครท้องถิ่นจะมีการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อไม่ให้ทับซ้อน หรือตัดคะแนนเสียงกันเองหรือไม่นั้น สมพงษ์ กล่าวว่า การดำเนินการอาจจะแยกกันทั้งการหาเสียง และการส่งผู้สมัครในแต่ละพื้นที่ โดยในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครให้ได้มากที่สุด โดยให้ผู้สมัครแต่ละพื้นที่แจ้งความประสงค์มายังพรรค แต่หากบางพื้นที่มีผู้ประสงค์จะลงสมัครหลายคนนั้น พรรคอาจจะให้ลงสมัครในนามอิสระ

สำหรับการลงสมัครในพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น ยังมีเวลาในการสรรหาผู้สมัคร ซึ่งก็มีผู้ที่ต้องการลงรับสมัคร ทั้งสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. และสภาเขตกรุงเทพมหานคร หรือ ส.ข. ได้ยื่นความประสงค์มายังพรรคแล้ว

ส่วนท่าทีของพรรคต่อการเคลื่อนไหวของนักศึกษาในวันที่ 14 ต.ค.นี้ สมพงษ์ ย้ำว่า พรรคสนับสนุนประชาธิปไตย โดยการชุมนุมในครั้งนี้พรรคไม่ได้ตั้งวอร์รูมติดตาม แต่มีคณะทำงานคอยสังเกตการณ์อยู่แล้ว ส่วนจะมีสมาชิกเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งพรรคไม่ได้ห้าม รวมถึงคณะกรรมาธิการการปกครอง แม้จะมีการตั้งคณะทำงานติดตามการชุมนุม ก็ยังไม่มีนโยบายว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร 

ขณะที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยนำกลุ่มผู้ชุมนุมมาชุมนุม นั้นสมพงษ์ มองว่า พรรคเพื่อไทยมีทั้งคนรักและคนไม่รักก็ย่อมมีการกระทำลักษณะเช่นนี้ออกมา แต่ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมมาชุมนุม ย้ำ พรรคไม่เคยคิด ไม่เคยทำ