วันนี้ (19 พฤษภาคม 2568) ณ สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการแถลงข่าว “Bangkok Pride Festival 2025” ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2568 โดยความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ชุมชน LGBTQIA+ 

นางสาวจิราพร กล่าวว่า ในนามของรัฐบาลและในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เชื่อมั่นว่า “ความเท่าเทียม” เป็นกระบวนการที่ทุกคนต้องร่วมกันขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องในทุกวัน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่มุ่งเน้นส่งเสริมความเท่าเทียมในทุกมิติ ทั้งการใช้ชีวิตในสังคม และตัวบทกฎหมายที่รองรับทุกเพศสภาพ ซึ่ง “ความหลากหลายทางเพศ” ไม่ได้เป็นประเด็นเฉพาะกลุ่ม แต่ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านวัฒนธรรม ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านการศึกษา ขอยืนยันว่าภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ประเทศไทยกำลังเดินหน้าอย่างชัดเจนในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกัน อย่างเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของประชาธิปไตย

“Bangkok Pride Festival 2025 ไม่ใช่แค่งานเทศกาล แต่เป็นเวทีสำคัญที่เปิดพื้นที่ให้ผู้คนจากหลากหลายชีวิต หลากหลายอัตลักษณ์ ได้ร่วมกันสื่อสารอย่างชัดเจนว่าประเทศไทยพร้อมที่จะเคารพและสนับสนุนศักดิ์ศรีของทุกคน โดยไม่มีข้อยกเว้น ในวันที่ 1 มิถุนายน 2568 นี้ ดิฉันขอเชิญชวนทุกท่าน มาร่วมกันเดินเคียงข้าง ในขบวนพาเหรด Bangkok Pride แสดงให้โลกเห็นว่าประเทศไทยเป็นบ้านของทุกคน ที่นี่คือพื้นที่ของความหลากหลาย และความเคารพซึ่งกันและกัน” นางสาวจิราพร กล่าว 

สำหรับการจัดงาน “Bangkok Pride Festival 2025” (บางกอกไพรด์ เฟสติวัล 2025) ปีนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Born This Way" ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเราทุกคนมีคุณค่าในแบบที่เกิดมา ไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร และควรได้รับการยอมรับในความเป็นตัวเอง โดยภายในงานประกอบด้วยกิจกรรม Bangkok Pride Forum 2025, Bangkok Pride Awards 2025, Bangkok Pride Parade 2025 และ Drag Bangkok Festival 2025 ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2568 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศ

นางสาวจิราพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สังคมไทยได้แสดงให้เห็นถึงพลังของการมีส่วนร่วม โดยเฉพาะกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่เมื่อร่างกฎหมายกลายเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการผลักดันของพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงเจตจำนงที่ชัดเจนของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน ความหลากหลาย และความเท่าเทียม