ไม่พบผลการค้นหา
ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน สั่งเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าชายแดนบ้านแม่สามแลบ อำเภอสบเมย ตั้งเเต่วันที่ 1 ก.ค.

สำนักข่าวชายขอบ รายงานข่าวจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา สิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ลงนามในคำสั่งเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าชายแดนบ้านแม่สามแลบ อำเภอสบเมย ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยในคำสั่งระบุว่า 

ตามที่ได้มีคำสั่งระงับการเดินทางเข้า-ออกของบุคคล ยานพาหนะและสิ่งของ ณ จุดผ่อนปรนบ้านแม่สามแลบตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เนื่องจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองกำลังกะเหรี่ยง KNU กับทหารเมียนมาใกล้ฐานทหารเมียนมา ริมแม่น้ำสาละวิน ตรงข้ามกับบ้านแม่สามแลบ นั้น เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ว่าฯ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการศูนย์สั่งการฯ มีมติเห็นชอบให้เปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า

คำสั่งดังกล่าวระบุแนวทางให้ผู้ประกอบการปฎิบัติด้วยว่า 

1.ให้ปฎิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด 

2.การนำเข้าหรือนำผ่านเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งโค กระบือหรือซากโค ซากกระบือจากเมียนมา ให้ปฎิบัติตามประกาศกรมปศุสัตว์อย่างเคร่งครัด

สำนักข่าวชายขอบรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ผู้ใหญ่บ้านแม่สามแลบได้เรียกประชุมกลุ่มคนขับเรือและแจ้งถึงการเปิดจุดผ่อนปรนซึ่งจะให้เรือวิ่งในแม่น้ำสาละวินได้เฉพาะเรือฝั่งไทยเท่านั้น ส่วนเรือของชาวกะเหรี่ยงฝั่งพม่ายังไม่สามารถเข้ามาได้เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด

คนขับเรือต่างรู้สึกดีใจที่ได้กลับมาวิ่งเรือในแม่น้ำสาละวินอีกครั้ง เนื่องจากตั้งแต่ปิดด่านแห่งนี้มากว่า 1 ปีทำให้การทำมาหากินของคนในชุมชนเป็นไปอย่างลำบาก

ทั้งนี้มีรายงานข่าวด้วยว่า ในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบระหว่างทหารกะเหรี่ยง KNU และทหารพม่า ขณะนี้ยังมีอีกจำนวนมากที่หลบซ่อนอยู่ในป่า และบางส่วนที่ถูกผลักดันจากทหารไทยได้หลบอยู่ริมแม่น้ำสาละวินฝั่งกะเหรี่ยงที่บ้านราท่าตรงข้ามกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน อ.แม่สะเรียง

ขณะที่เครือข่ายสันติภาพกะเหรี่ยง (Karen Peace Support Network-KPSN) ได้เผยแพร่รายงานวิดีโอเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในรัฐกะเหรี่ยง เขตมือตรอ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กองพลที่ 5 ริมแม่น้ำสาละวิน พรมแดนไทยพม่า ตรงข้าม อ.สบเมย และอ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ในชื่อ “ไม่มีทางหนี” หรือ Nowhere to run โดยเนื้อหาสำคัญได้เล่าถึงสถานการณ์ของประชาชนรัฐกะเหรี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่โดยทหารพม่า ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 70,000 คน ต้องหนีภัยความตายออกจากหมู่บ้านไปซ่อนตัวตามป่าเขา ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา 

โดยในช่วงที่มีการโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้ข้ามฝั่งแม่น้ำสาละวินมามายังเขตประเทศไทยเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย แต่ไม่นานก็ถูกเจ้าหน้าที่ทางการไทยแจ้งให้กลับไปยังฝั่งประเทศพม่า ในขณะที่ทหารพม่ายังคงอยู่ในพื้นที่ มีการโจมตีชาวบ้านด้วยปืนใหญ่ลงในหมู่บ้านต่างๆ และมีการพบเห็นหรือได้ยินเสียงเครื่องบินโจมตี และโดรนตรวจการณ์อยู่ตลอด ในขณะนี้ชาวบ้านจึงยังต้องหลบซ่อนตามป่า ไม่กล้ากลับไปยังหมู่บ้านเพราะกลัวภัยความตาย

210848323_261149885770760_8512054992486761423_n.jpg

ที่มา : สำนักข่าวชายขอบ