ไม่พบผลการค้นหา
รุ่นเก๋า-รุ่นใหม่ ร่วมให้กำลังใจผู้ร่วมชุมนุม 'ต่อต้านเผด็จการ' ปลูกต้นไม้ประชาธิปไตยอีกครั้ง ย้ำหมดเวลาคุกคามนักศึกษาประชาชนแล้ว

หลังการชุมนุมใหญ่ครั้งแรกในวันที่ 18 ก.ค. นับตั้งแต่มีการระบาดโควิด-19 โดยกลุ่ม เยาวชนปลดแอก เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล ยุบสภา - หยุดคุกคามประชาชน - แก้รัฐธรรมนูญ มีผู้คนช่วงอายุ เข้าร่วมชุมนุมกว่า 2,000 คน บริเวณอนุสารีย์ประชาธิปไตย โดยให้เวลารัฐบาล 2 สัปดาห์ หากไม่มีคำตอบ พร้อมยกระดับการชุมนุม

อย่างไรก็ดี นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน และอดีตนักศึกษาสมัยชุมนุมขับไล่เผด็จการ 14 ตุลาคม 2516 ได้โพสต์ข้อความชื่นชมกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า แล้วอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่สูญเสีย คุณค่าและความหมายลงไปนาน จากความพยายามทำลายของเหล่าผู้มีอำนาจ ก็กลับมีความงดงามขึ้นอีกครั้งเมื่อเยาวชน ประชาชน ใช้เป็นเวทีต่อสู้เพื่อทวงคืนประชาธิปไตย ขอเป็นกำลังใจให้การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยประสบความสำเร็จและขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน

เช่นเดียวกับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นอีกหนึ่งคนเดือนตุลาที่เคยขึ้นเวทีต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการ ได้ทวิตข้อความว่า แล้วอนุสาวรีย์ที่สูญเสียคุณค่าความหมายไปนานแล้วก็กลับมีความงดงามขึ้น เมื่อถูกใช้เป็นที่ต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยครั้งสำคัญ ขอเป็นกำลังใจให้เยาวชนนักศึกษาประชาชนทุกคน ,หมดเวลาข่มขู่คุกคามนักศึกษาประชาชนแล้ว พร้อมกันนี้นักการเมืองรุ่นเก๋า ยังได้เปลี่ยนภาพปกในเพจเฟซบุ๊ก เป็นภาพการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองรุ่นใหม่ อดีตแอคติวิสท์ผู้เคลื่อนไหวให้มีการเลือกตั้ง อย่างรังสิมันต์ โรม ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ผมอยากให้ผู้มีอำนาจคิดให้ดีก่อนจะดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม การทำแบบนั้นคือการบิดเบือนเอา พ.ร.ก. ฉุกเฉินมาใช้โดยไม่ดูว่าจุดประสงค์ของ พ.ร.ก. คืออะไร ย้ำว่า พ.ร.ก. มีใว้เพื่อจัดการโควิดไม่ใช่การชุมนุม หากมีการดำเนินคดีจะทำให้สถานการณ์บานปลาย และสร้างความไม่เป็นธรรมในสังคมมากขึ้น 


อ่านเพิ่มเติม