นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ระบุถึงการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะมีการประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ (18 มิ.ย.) วาระเลือกประธาน รองประธาน และตำแหน่งต่างๆ รวมถึงวางกรอบการทำงาน  

โดยย้ำว่ากลไกการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติสนับสนุนฝ่ายบริหาร ซึ่งหลักทำงาน ภารกิจแรกให้โครงการตามพระราชกำหนดทั้ง 3 ฉบับให้เกิดความโปร่งใส และภารกิจที่สองคือติดตามให้ผู้ที่มีสิทธิได้รับตามมาตรการที่รัฐกำหนดให้แต่พบอุปสรรคที่เข้าไม่ถึงการช่วยเหลือ ประชาชน ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และยังเปิดกว้างให้เสนอเรื่องมาตรการเยียวยา ฟื้นฟู  

นอกจากนี้ให้สอดรับตามแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี ให้การดำเนินการ ให้ประชาชน สามารถผ่านอุปสรรคและปัญหา แล้วยืนยันว่ากรรมาธิการจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะติดตามตรวจสอบการใช้เงินในการเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม โดยกล่าวว่าในการทำงานนั้น ผลงานคือการแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน

ส่วนการเลือกประธานกรรมาธิการนั้นตามธรรมเนียมปฎิบัติก็จะใช้เสียงข้างมาก ตามระบบประชาธิปไตย ย้ำว่าการดำเนินการยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก โดยไม่ใช่เรื่องการเมืองเสียทีเดียว 

กรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรแจ้งกำหนดวันประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ในวันที่ 1-3 ก.ค. นี้ กระทบวันที่พรรคพลังประชารัฐ จัดประชุมกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐเพื่อเตรียมจัดประชุมใหญ่ของพรรค โดยส่วนตัวนายไพบูลย์จะปรึกษากรรมการบริหารและเสนอเลื่อนให้ประชุมเร็วขึ้น อาจจะเป็นวันที่ 27 มิ.ย. ในเวลา 13:00 น. ส่วนสถานที่จัดประชุมจะปรึกษาและเสนอที่ประชุมอีกครั้ง 

โดยเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปเรียบร้อยและสามารถจัดได้ทัน แต่ปฏิเสธข้อสังเกตเลื่อนประชุมเร็วเพื่อกดดันให้เกิดการปรับคณะรัฐมนตรี และปฏิเสธบีบกรรมการบริหารชุดเก่าออกจากตำแหน่ง และเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ด้วยมีรายชื่อแคนดิเดตคนเดียวในตอนนี้ และสมาชิกต่างสนับสนุนทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ โดยหลังวันที่ 19 มิ.ย. จะมีความชัดเจน การเปลี่ยนผ่านจะเรียบร้อยและสร้างความเข้มแข็งให้กับพรรคพลังประชารัฐ