ไม่พบผลการค้นหา
นักวิชาการปรัชญา-มานุษยวิทยา แอคชั่นเพื่อนักศึกษาที่ถูกคุมขังด้วยข้อหาทางการเมือง เรียกร้องปล่อยตัว-ไม่ยอมรับคำสั่ง รมว.

ภายหลังที่สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของเพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ นักศึกษาและแกนนำกลุ่มราษฎร ได้โกนหัวประท้วง (ไปเมื่อวันที่ 30 เม.ย.) กระบวนการยุติธรรมที่ปฏิเสธการประกันตัวลูกชายที่ยังไม่ถูกตัดสินความผิด และอดอาหารประท้วงนานเกิน 1 เดือนจนถ่ายเป็นเลือด

วันที่ 1 พ.ค​. สุรพศ ทวีศักดิ์ นักวิชาการด้านปรัชญาและศาสนา ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับแสดงรูปตนเองโกนหัว โดยชี้แจงว่าเป็นการ "โกนหัวประท้วงกับแม่เพนกวิน"

สุรพศ เขียนอธิบายถึงการกระทำครั้งนี้ว่่า "ผมเป็นคนรักลูกมากที่สุด ลูกเหมือนศาสนาของผม เขาทำให้ผมรู้สึกได้ถึง "ความสุขมากที่สุด" ตั้งแต่รู้ว่าเขาเริ่มปฏิสนธิในครรภ์ของแม่ เมื่อเขาลืมตาดูโลกจนถึงวันนี้เราร่วมสุขร่วมทุกข์มาด้วยกัน"

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเห็นพลังแห่งความรักที่งดงามอย่างที่สุดในการยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างลูกของแม่เพนกวิน ผมรู้สึกได้ถึงความคับแค้นใจเหลือประมาณที่ลูกต้องเผชิญความอยุติธรรมเช่นนั้น หากเป็นผมไม่แน่ใจเลยว่าผมจะเข้มแข็งได้เท่าครึ่งหนึ่งของเธอ

แม่เพนกวินยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่า "ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด" ใช่ที่สุดเลย เพนกวินไม่เคยทำอะไรผิดหลักเสรีภาพในการแสดงออกในสังคมประชาธิปไตย นอกจากไม่เคยทำอะไรผิดแล้ว เขายังทำถูกต้องอย่างที่สุดคือต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง การประกาศเจตนารมณ์อดอาหารประท้วงชัดเจนอย่างยิ่งแล้วว่า เขาเดิมพันด้วยชีวิตเพื่อเราทุกคน!

ผมอยากให้เราอ่านข้อความของ Timothy Snyder ในหนังสือ "On Tyranny" แปลโดยเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และชยางกูร ธรรมอัน ที่ว่า

"หากไม่มีใครพร้อมตายเพื่ออิสรภาพ เราทุกคนคงตายใต้ระบอบทรราชย์เป็นแน่"

ใช่ นักศึกษาและประชาชนของประเทศนี้ตายมามากเกินพอแล้ว ต้องไม่มีใครตายอีก แต่เพนกวินเขาสู้เพื่อพวกเราอย่างพร้อมจะสละชีวิตเพื่ออิสรภาพ เราไม่ได้เชียร์ให้เขาสละชีวิต แต่เราเคารพนับถือเขาและกราบหัวใจเขา เราต้องไม่ปล่อยให้เขาโดดเดี่ยว

ความสำคัญของข้อความข้างบนอยู่ที่ประโยคหลังด้วย คือ "เราทุกคนคงต้องตายใต้ระบอบทรราชย์เป็นแน่" เชื่อว่าเราทุกคนไม่ต้องการแบบนั้น

การต่อสู้ของเพนกวินไม่ได้ "สุดโต่ง" เพราะเป็นการต่อสู้ตามครรลองประชาธิปไตยอย่างสันติวิธี เป็นการยืนยัน "ทางสายกลาง" คือยืนยันว่าประเทศนี้ต้องมี "กติกาที่ฟรีและแฟร์" ให้ทุกฝ่ายที่เห็นต่างได้พูดคุยต่อรองกันอย่างคนเท่ากัน เอา "ความเป็นมนุษย์" ของทุกฝ่าย คือมโนธรรม เหตุผลมาพูดคุยกัน โดยที่ทุกคนทุกฝ่ายยืดตัวตรงเสมอกัน ไม่ว่าใครจะคิดจะเชื่ออย่างไรก็ตาม

นี่ไม่ใช่การเรียกร้องอะไรที่มากเกินไปเลย ไม่ใช่มุ่งทำลายล้างสถาบันใดๆ แต่มุ่งให้ทุกสถาบันทางการเมือง ไม่ว่าสถาบันกษัตริย์ รัฐสภา กองทัพ ตุลาการ ระบบราชการทั้งหมดร่วมกันทำ "หน้าที่อันชอบธรรม" ในการสร้างสรรค์ พัฒนา และดำรงรักษาความมั่นของของระบอบประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ซึ่งย่อมเป็นประโยชน์แก่ทุกคนทุกสถาบันเสมอหน้ากัน

ขอพลังแห่ความรักของแม่เพนกวินจงช่วยให้เพนกวินปลอดภัย ขอให้เพนกวินและเพื่อนเราทุกคนที่โดน 112 ได้รับอิสรภาพ ขอให้ศาลทำหน้าที่รักษา "ความยุติธรรม" เพื่อดำรงความเชื่อมั่นของสถาบันตุลาการอันเป็นตัวแทนอำนาจของประชาชน

สุรพศ

ขณะเดียวกัน จากกรณีดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ทำหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564

ในเรื่องขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีการสอบจรรยาบรรณคณาจารย์ที่ปกป้อง-ยื่นขอประกันตัวกลุ่มนักศึกษาที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ตามที่ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขอทราบแนวทางการแก้ไขและบทลงโทษของคณาจารย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 8 ราย

ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้สอนนักศึกษา จำนวน 3 รายที่ตกเป็นจำเลย ในข้อหากระทำผิดกฎหมายใน มาตรา 112 และมาตรา 116 แห่งประมวลกฏหมายอาญา ซึ่งได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอาญาเพื่อขอประกันตัวนักศึกษา ทั้ง 3 ราย

ในการนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้มีบัญชาให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ชี้แจงว่า จะสอบจรรยาบรรณคณาจารย์ทั้ง 8 คนหรือไม่ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ

รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ.JPG

อนุสรณ์ อุณโณ อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เขียนเฟซบุ๊กตอบโต้กรณีดังกล่าวว่า ด้วยความที่เป็นหนึ่งในผู้ถูกร้องเรียนให้สอบจรรยาบรรณ ผมจึงขอชี้แจงล่วงหน้าดังนี้

การใช้ตำแหน่งอาจารย์ในการประกันตัวนักศึกษาเป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ ไม่ได้เป็นการทำผิดกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยว่าด้วยจรรยาบรรณอาจารย์ โดยเฉพาะการยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นที่พึ่งนักศึกษายามพวกเขาประสบปัญหา เพราะเป็นการช่วยเหลือพวกเขาในการใช้สิทธิผู้ต้องหาที่ได้รับการรับรองทั้งในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รัฐธรรมนูญ และกติการะหว่างประเทศ และยิ่งพวกเขาถูกปฏิเสธสิทธิดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างขัดกับหลักกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นข้อที่ว่าพวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาว่าผิดหรือเงื่อนไขในการควบคุมตัวพวกเขาระหว่างการพิจารณาคดี ก็ยิ่งจำเป็นที่ผู้เป็นอาจารย์จะต้องให้ความช่วยเหลือพวกเขา ไม่เฉพาะแต่การใช้ตำแหน่งในการประกันตัว หากแต่ยังรวมถึงการรณรงค์เคลื่อนไหวในด้านอื่นด้วย

ในทางกลับกัน ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยยังไม่ได้ปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษาอย่างหนักแน่นมั่นคงพอ มหาวิทยาลัยพร่ำบอกนักศึกษาว่ามีคุณูปการต่อประชาธิปไตยโดยอาศัยบุญเก่าหรือเรื่องเล่าในประวัติศาสตร์ ทว่าในการเผชิญปัญหาความขัดแย้งการเมืองร่วมสมัย คนมีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยจำนวนมากกลับเข้าร่วมหรือสนับสนุนฝ่ายทำลายประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ในรูปกลุ่มเคลื่อนไหว คณะรัฐประหาร หรือรัฐบาลที่กลายร่างมา โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงอุดมศึกษาฯ เป็นกรณีล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นเพราะความที่เขาเคยอยู่ในมหาวิทยาลัย ความที่เขาเป็นผู้บังคับบัญชา หรือว่าเพื่อประโยชน์ของมหาวิทยาลัย แต่ก็ทำให้มหาวิทยาลัยกลายเป็นสถาบันที่พูดอย่างทำอย่างอย่างน่าอดสู

ฉะนั้น นอกจากจะไม่เต้นตาม “บัญชา” ของรัฐมนตรีกระทรวงอุดมศึกษาฯ ที่เล่นไปตามบทบาทที่ช่วยให้เขาได้ดิบได้ดี มหาวิทยาลัยจะต้องปกป้องสิทธิและเสรีภาพของนักศึกษาให้หนักแน่นมั่นคงมากกว่านี้ โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่พวกเขา คือ “เพนกวิน” และ “รุ้ง” อดอาหารประท้วงการไม่ได้รับสิทธิการประกันตัวมากว่าหนึ่งเดือน และ “เพนกวิน” นั้นสภาพร่างกายอยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะเป็นอะไรไป ซึ่งจะสร้างรอยด่างพร้อยให้มหาวิทยาลัยจนไม่สามารถอาศัยบุญเก่าในการเล่าเรื่องให้นักศึกษาฟังได้อีก ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงอุดมศึกษาฯ ก็ปล่อยให้เขากลายเป็นโมฆะบุรุษทางการเมืองไปและให้ถูกจดจำว่าได้ก่อกรรมทำเข็ญอะไรไว้กับประชาธิปไตยของประเทศนี้