ไม่พบผลการค้นหา
เศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลต่อภาคการผลิต ภาคการเงิน และอุตสาหกรรมของจีน โดยเฉพาะในกลุ่มตราสารหนี้และหุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ ในจีน

บลูมเบิร์กรายงานว่าตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาลท้องถิ่นของจีนได้ยอมรับแผนการเข้าสู่กระบวนการล้มละลายของบริษัทผู้ออกตราสารหนี้อย่างน้อย 5 แห่ง ซึ่งการผิดนัดชำระดอกเบี้ยให้แก่ผู้ถือตราสารหนี้ในปีนี้ถือว่าสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ของจีน โดยในมียอดค้างชำระทั้งเงินกู้และดอกเบี้ยให้แก่ผู้ร่วมลงทุนสูงกว่า 103,000 ล้านหยวน ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2017 ที่มูลค่าการผิดชำระหนี้อยู่ประมาณ 30,000 ล้านหยวนเท่านั้น

ที่ผ่านมารัฐบาลจีนพยายามชะลอการล้มละลายของบริษัทที่ปล่อยกู้ตราสารหนี้ด้วยการให้รัฐบาลท้องถิ่นเป็นผู้ค้ำประกันระบบการเงินและหุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ มาโดยตลอด แต่ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวซึ่งส่งผลให้ภาคการผลิตของจีนถดถอยลงไปนั้น ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นไม่สามารถแบกรับภาระนี้ได้ต่อไป ส่งผลให้การยื่นฟ้องล้มละลายบริษัทที่ปล่อยกู้ตราสารหนี้มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้

คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีนออกแถลงการณ์เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาระบุว่า ให้อำนาจรัฐบาลท้องถิ่นและศาลท้องถิ่นร่วมมือและสนับสนุนกระบวนการเข้าสู่การล้มละลายของนิติบุคคล ซึ่งกระบวนการดังกล่าวของทางการจีนจะสามารถช่วยฟื้นฟูภาคการผลิตและการตลาดที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องได้ตามการคาดหมายของรัฐบาลจีน

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์หลายรายออกมากล่าวว่า การเผชิญความเสี่ยงของผู้ถือหุ้นกู้ในตราสารหนี้จะเป็นบทเรียนทางการเงินที่ทำให้ผู้ตกเป็นเหยื่อได้เรียนรู้ถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิของตนเอง และทำให้เกิดการเจรจาประนอมหนี้และปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ตามกระบวนการทางกฎหมาย