28 ต.ค. 2562 น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีการติดแฮชแท็ก #ข่าวใหญ่ ในสื่อสังคมออนไลน์ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า "สัปดาห์ที่ผ่านมา จนสัปดาห์นี้ ตนได้มีโอกาสเดินถนน เพราะรถเข้าศูนย์ซ่อม ต้องนั่งแท็กซี่ออกมาทำงาน ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาลและกองทัพบก ตามปกติ จึงได้พบปะพี่น้องประชาชนคนเดินถนนมากมายคำถามที่ได้รับ เมื่อผู้คนจำหน้าตนได้ คือ “คุณวาสนา เป็นยังไงบ้าง, สบายดีหรือ เปล่า โดนอะไรมั้ย” บ้างก็ว่า “อ้าว ไหนว่า จอดำ หายตัวไปแล้ว” ไม่แค่นั้น ในไลน์ และ ใน inbox FB ก็มีคนถาม ทั้งๆ ที่ วาสนา ก็ยังโพสต์ข่าวตามปกติ และก็ไปทำข่าวตามปกติ"

"สะท้อนให้เห็นว่า การปล่อยข่าวลือในโซเชียลฯ มีผลทำให้คนเชื่อ หรือเกิดความไม่แน่ใจ ผสมด้วย “ข่าวแช่ง” จากพวกที่ไม่ชอบหน้าวาสนาบ้าง พวกที่เกาะกระแสบ้าง และพวกบิดเบือน หวังผล เลยไปกันใหญ่"

น.ส.วาสนา ยังยืนยันว่า "วาสนา สบายดี ปกติดีทุกอย่าง ไม่ได้เป็นอะไร แต่เหนื่อยมากขึ้น พอไม่มีรถใช้ ก็ต้องเดินเยอะ แถมแบกเป้ ของฝากจากเกาหลี มาให้ พี่ๆน้องๆนักข่าว ทำเนียบฯและ สายทหาร ขนม และ แผ่น ชีท มาร์คหน้า ก็หนัก ไม่น้อย แถมแดดร้อน เดินจาก ทำเนียบฯ มา ทบ. จาก ทบ. มาทำเนียบฯ หรือ เดินถนน หาโบกรถแท็กซี่ ไม่ได้มีใครมาทำอะไร วาสนา ค่ะ แต่พวกปล่อยข่าวลือ พวกแช่ง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร นั้นต่างหาก ที่มีเจตนาไม่ดี. ปล่อยข่าว เพื่อให้เข้าใจผิด ที่ผ่านมา วาสนา ก็ไม่เคยออกมาพูดเลยว่า คือ เรื่องข่าว อะไร จนทุกวันนี้ แต่ก็สะท้อน ถึง การที่พี่น้องประชาขน ให้ เครดิต วาสนา ว่า ถ้าเป็นข่าว จาก วาสนา แล้วเชื่อถือได้. จึงทำให้ข่าวติดเทรนด์ทวิตเตอร์ โดยที่ วาสนา ก็คาดไม่ถึงว่า จะส่งผลมากมายขนาดนั้น และต้อง ขอโทษ ย้อนหลัง ที่ทำให้ หลายคน ต้องมานั่งคาดเดา และรอเฉลย แต่การที่ วาสนา ต้องเขียนวันนี้ ความจริง ไม่ได้อยากเขียน ไม่อยากฟื้นฝอยฯ เพราะเงียบ และไม่ตอบโต้ มาทั้งสัปดาห์ เพราะชินกับการโดนด่า แต่เพราะผู้คนเข้าใจผิด ไปตามข่าวลืออย่างมาก เลยต้องออกมายืนยันว่า วาสนา ปกติดี ไม่ได้มีใครมาทำอะไร หรือโดนอะไรค่ะ เพราะมีพวกปล่อยข่าว ให้ร้ายว่า “วาสนา โดนแล้ว หายตัว” เพราะรู้ข่าวก่อน ทั้งๆที่ วาสนา ไม่เคยพูด ว่าคือข่าวอะไร ขอร้องว่า เอาไปโยง และ อย่าดึง สถาบันฯ ลงมา เพราะทรงมีพระเมตตา ต่อพสกนิกร อยู่แล้ว นักข่าวตัวเล็กๆ อย่าง วาสนา ก็ถือว่าเป็น พสกนิกร คนหนึ่ง ที่ผ่านมา วาสนา ได้รับ พระเมตตาเป็นอย่างดียิ่ง และแอบปลาบปลื้มในใจมาตลอด แบบเงียบๆ ที่ทรงมีพระเมตตา"

นอกจากนี้ น.ส.วาสนา ชี้แจงอย่างละเอียดว่า "จากการเสนอข่าวต่างๆ ผ่าน เพจ FB Wassana Nanuam ทั้งเรื่อง พระราชกรณียกิจ ของพระราชวงศ์ พระปรีชาสามารถด้านการทหาร พระมหากรุณาธิคุณ ต่อกองทัพ และพระบรมราโชบาย แนวทางพระราชทานต่างๆ แก่กองทัพ และ เรื่องของ กองทัพ เพราะ เป็นทหารของพระราชา เป็นทหารรักษาพระองค์รวมทั้ง การทหาร และ การเมือง ความเคลื่อนไหวในรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพ รับทราบกันดี แต่ วาสนา ไม่เคยนำมากล่าวถึง แต่ ครั้งนี้ ขออนุญาต นำมากล่าวถึง สักเล็กน้อย เพื่อยืนยันว่า ทรงมีพระเมตตา ไม่ได้เป็น เช่นที่พวกไม่หวังดี ปล่อยข่าวลือ เลยแม้แต่น้อย ดังนั้น ขอหยุดปล่อยข่าวลือ เช่นนี้ และ อย่า ป้ายสี หรือ เอา วาสนา ไป ผสมโรง กับ พวกไหน กลุ่มไหน วาสนา ขอขอบคุณ ทุกคนที่เป็นห่วง และขอโทษ ที่ทำให้ หลายคนต้องรอลุ้น

สำหรับ เรา คนเป็นนักข่าว แล้ว ยังไง ก็เป็นนักข่าว เพราะเราเป็นจนซึมเข้า DNA ของเรา ไม่ต้อง fake ไม่ตัองสร้างภาพ คนในวงการนักข่าวเรา รู้กันดีว่า ใครเป็นอย่างไร ฝีมือ เป็นอย่างไร พฤติกรรมส่วนตัวเป็นอย่างไร อย่าปรามาส นักข่าวคนอื่น ว่า ไม่รู้จริง หรือ สั่งสอน คนอื่น เจ้านายของ เรา นักข่าว คือ ประชาชน สิ่งไหน ที่ประชาชนควรรู้ นั่นคือหน้าที่ของเรา และขึ้นอยู่ วิธีการ และรูปแบบการนำเสนอ ขอให้ ดูกันที่ผลงาน ดีกว่า เพราะ เรื่องรูปร่างหน้าตา วาสนา คงไปสู้กับใครไม่ได้ และชีวิตนี้ ไม่เคยคิดสู้หรือแข่งขันกับใครเลย ทุกวันนี้ยังทำงานงกๆ ทำหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิ ไปทำข่าวเอง ทุกที่ ในสายความรับผิดชอบ เขียนข่าวเอง เปิดประเด็นข่า ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง สีสันบ้าง โพสต์ข่าวเอง ถ่ายภาพ ตัดต่อทำคลิป เองหมด ไม่เคยอยากดัง ใจจริง อยากเดินถนน โดยคนไม่รู้จัก แต่ทุกอย่างมันเป็นไปโดยธรรมชาติ ที่ทำให้ ประชาชน รู้จัก และ ให้เครดิต วาสนา ที่เป็นเรื่องที่ต้อง สั่งสมมายาวนาน ซึ่ง ในวงการมีน้องนักข่าวเก่งๆหลายคน แต่อาจยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่รู้ฝีมือกันในวงการ"

ทั้งยังระบุว่า "ขอให้ เรื่อง #ข่าวใหญ่ นี้ จบแค่นี้ วาสนา เงียบมาหลายวัน เพราะไม่อยากต่อความยาว สาวความยืด เพราะระลึกเสมอว่า นักข่าวกับการถูกด่า ถูกวิจารณ์ เป็นเรื่องปกติ แต่ เพราะมีการบิดเบือน จนอาจไปกระทบ บุคคลอันเป็นเคารพรักของคนไทย....จึงทำให้ วาสนา ต้อง ออกมาครั้งนี้ ต่อไป สัญญาว่า หากจะเขียน ก็จะเขียนให้ชัดว่า เป็น ข่าวใหญ่ แวดวงไหน การเมือง หรือ การทหาร นะคะไว้พบกัน กับ “ข่าวใหญ่” ในวงการทหาร แวดวงกองทัพ ครั้งหน้า เลยนะคะ ทุกคน"

กรณีแฮชแท็ก #ข่าวใหญ่ กลายเป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวันที่ 21-22 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่วาสนาโพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ว่า "เตรียมรอฟังข่าวใหญ่ในเร็วๆ นี้" แต่เมื่อมีผู้สอบถามข้อมูลจำนวนมาก จึงลบโพสต์ดังกล่าวไป และทำให้เกิดกระแสข่าวต่างๆ นานาออกมา จนแฮชแท็ก #ข่าวใหญ่ ติดอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์อยู่นานข้ามวัน

ในเวลาไล่เลี่ยกัน บุคคลในวงการสื่อสารมวลชนบางราย เช่น สายสวรรค์ ขยันยิ่ง โพสต์ทวิตเตอร์ถึง "เรื่องใหญ่" เช่นกัน ซึ่งแม้จะไม่ได้พาดพิงถึง #ข่าวใหญ่ แต่ก็แสดงความเห็นว่า "เรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญ เมื่อถึงเวลาเราก็จะได้รู้ได้เห็นเอง ไม่จำเป็นต้องเอามาพูดก่อนโดยไม่ได้อยู่ในวิสัยที่จะพูดได้ละเอียดลึกซึ้ง เพราะอาจรู้ไม่จริง หรือไม่รู้ทั้งหมด และเป็นการสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายบานปลายโดยใช่เหตุอีกด้วย"