ไม่พบผลการค้นหา
กรุงเทพโพลล์ เผยสิ่งที่ประชาชนต้องการมากสุดจากการเยียวยาของรัฐบาลคือ "เงิน" พร้อมอยากให้หาวิธีที่เข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึง และหากไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ ส่วนใหญ่อาจต้องพึ่งพาการกู้ยืม

กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง "เสียงสะท้อนคนไทยต่อมาตรการเยียวยา" โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,402 คน พบว่า

เมื่อถามประชาชนว่า "มาตรการที่ท่านมีสิทธิได้รับการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19" ส่วนใหญ่ร้อยละ 70.6 มีสิทธิหรือเข้าถึงมาตรการดูแลเยียวยารายได้ลูกจ้าง แรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ รองลงมาคือ มาตรการดูแลและเยียวยาให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อคิดเป็นร้อยละ 21.8 และมาตรการดูแลและเยียวยาจัดหาอุปกรณ์ป้องกันโรค COVID-19 คิดเป็นร้อยละ 12.9

สำหรับสิ่งที่ต้องการมากที่สุดจากการเยียวยาคือ เงินเยียวยา คิดเป็นร้อยละ 70.9 รองลงมาคือ ไม่ถูกพักงานหรือลดเงินเดือนคิดเป็นร้อยละ 7.2 พักชำระหนี้จากสถาบันทางการเงิน คิดเป็นร้อยละ 6.9 ข้าวสารอาหารแห้ง คิดเป็นร้อยละ 4.5 และลดหย่อนค่าสาธารณูปโภค คิดเป็นร้อยละ 4.2 

เมื่อถามว่า "คิดเห็นอย่างไรต่อการจัดการมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีหลากหลายมาตรการ ไปยังคนหลากหลายกลุ่ม" ประชาชนร้อยละ 37.5 เห็นว่าควรหาวิธีการเยียวยาที่เข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึงมากที่สุด รองลงมาร้อยละ 25.5 เห็นว่าไม่ต้องมีระบบการลงทะเบียน ควรแจกตามฐานข้อมูลสำเนาทะเบียนราษฎร์ และร้อยละ17.7 เห็นว่าการเยียวยาต้องรวดเร็วและตรวจสอบง่ายมากกว่านี้

ทั้งนี้เมื่อถามว่า "ท่านจะทำอย่างไร หากไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ เลย" ประชาชนร้อยละ 45.7 จะกู้ยืมมากที่สุด รองลงมาร้อยละ 41.1 จะร้องเรียน / ทบทวนสิทธิประโยชน์อีกครั้ง ร้อยละ 39.5 จะประหยัด พอพียง และร้อยละ 16.1 จะเปลี่ยนอาชีพ หางานพิเศษ 

สุดท้ายเมื่อถามความเห็นต่อแรงงานไทย ผู้มีอาชีพอิสระ ควรได้รับหลักประกันใดที่เหมาะสมจากวิกฤตที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนร้อยละ 30.9 เห็นว่าควรให้แรงงานมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อเก็บออม โดยมีรัฐเป็นผู้สมทบในกองทุนมากที่สุด รองลงมาร้อยละ 27.3 เห็นว่าควรมีการลงทะเบียนแรงงานในระบบที่ตรวจสอบได้ และร้อยละ 19.5 เห็นว่าควรมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมสำหรับแรงงานเพื่อรักษาสภาพคล่อง ยามจำเป็น