ไม่พบผลการค้นหา
เมื่อนายกรัฐมนตรี ออกเยี่ยมประชาชนในที่ที่มิได้มีการกะเกณฑ์อย่างเป็นระบบมากพอ สิ่งที่พบก็คือความจริง เป็นความจริงจากสีหน้า และอารมณ์ของประชาชนที่คุกรุ่นไปด้วยความไม่พอใจ ความไม่เชื่อมั่น ความไม่ไว้วางใจต่ออนาคต ภายใต้การบริหารของรัฐบาลปัจจุบัน

ในระดับที่กล้าหาญพยักหน้ายอมรับว่า “เบื่อนายกรัฐมนตรี-เบื่อลุง”

เหตุผลที่เบื่อนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ถูกถามไถ่ แต่ชาวบ้าน-เกษตรกร-พี่น้องแรงงาน-ร้านค้า รู้ดีว่า เป็นผลจากเศรษฐกิจตกต่ำ และความเหลื่อมล้ำเพิ่มสูง แบบชนิดที่เพลงของ “ก้อง ห้วยไร่” ซึ่งแต่งขึ้นเพื่อเป็นสื่อให้กำลังใจไปยังพี่น้องแรงงานชาวอีสาน ซึ่งต้องตกงานเป็นจำนวนมาก เพราะโรงงานปิดกระทันหันส่งท้ายปลายปี ได้รับความนิยมถล่มทลาย 

หากบทเพลงเป็นภาพสะท้อนความจริงที่เกิดในสังคม ก็มีแววว่า จะมีเพลงที่บอกเล่าเนื้อหาในลักษณะนี้ ปรากฏออกมาอีกมากในปีหน้า อันเป็นปีที่คาดได้ว่า เศรษฐกิจจะตกต่ำ-จำนวนการปิดโรงงานจะมาก-ยอดคนตกงานจะสูง-ความลำบากของพี่น้องประชาชนจะเพิ่มพูนยิ่งกว่านี้

“กระแสเบื่อลุง” ไม่ได้เพิ่งเกิด แต่ฟูมฟักมาตลอดตั้งแต่ปี 2557 อันเป็นปีรัฐประหาร

“นิด้าโพลล์” ถามความคิดเห็นของประชาชนต่อ 6 เดือนของรัฐบาลประยุทธ์ ก็พบว่า 

“ร้อยละ 33.72 ระบุว่า ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ไม่ดีเลย เพราะ การบริหารงานประเทศยังไม่มีประสิทธิภาพ ไม่คืบหน้า แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ บริหารประเทศไม่ดีทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ไม่ได้ใส่ใจประชาชนเท่าที่ควร ยังไม่โปร่งใสพอ ไม่มีความเป็นธรรม และช่วยเหลือแต่พวกของตัวเอง” 

“กระแสเบื่อลุง” ยังสะท้อนผ่านตัวเลขผู้คนอันหนาแน่นที่ออกมาร่วมแฟรชม็อบที่สกายวอล์ค 

“กระแสเบื่อลุง” ยังสะท้อนผ่านยอดสมัคร “วิ่งไล่ลุง” ในรอบแรก รอบสอง ที่เต็มอย่างรวดเร็ว จนผู้คนบ่นผ่านโลกออนไลน์ว่าเสียดายที่จับจองไม่ทัน!! ช่วยเปิดอีกรอบสาม รอบสี่ด้วย จะรีบไปสมัคร 

ขณะที่ “กระแสเบื่อลุง” ลุกลาม ตัดภาพไปที่กระแสนิยมของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” กลับเพิ่มพูนทุกขณะ

“นิด้าโพลล์” เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 1” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18 - 20 ธันวาคม 2562 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ

เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า 

“อันดับ 1 ร้อยละ 31.42 ระบุว่าเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (พรรคอนาคตใหม่) เพราะ อยากเห็นคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารบ้านเมือง มีความคิดที่พัฒนาประเทศ และเศรษฐกิจได้ดี และชื่นชอบพรรคอนาคตใหม่เป็นการส่วนตัว”

เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า 

“ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 30.27 ระบุว่าเป็น พรรคอนาคตใหม่”

“กรุงเทพโพลล์” เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2562” พบว่า

“นักการเมืองแห่งปีที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ร้อยละ 32.02”

ประเมินได้ว่า ความนิยมต่อตัวธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่ได้เป็นผลแค่จากวิสัยทัศน์ต่อการพัฒนาประเทศ หรือการทำงานด้านการตรวจสอบในสภาของทีมอนาคตใหม่ แต่เป็นผลสำคัญจากการที่ประชาชนได้เห็นผู้มีอำนาจ มุ่งทำลายธนาธร-พรรคอนาคตใหม่ เสมือนเป็นศัตรูทางการเมือง จึงทำให้ประชาชนรู้สึกเห็นอกเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง 

ตัวเร่งอุณหภูมิ “กระแสเบื่อลุง” ในปีหน้าจะมาจากปัญหา “ปากท้อง” ที่มีแววลุกลาม สอดรับกับ "สวนดุสิตโพล" ที่ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน กรณี “ที่สุดแห่งปี” ซึ่งทำต่อเนื่อง เป็นประจำทุกปี ครอบคลุมทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ตลอดปี 2562

ที่ต้องปักหมุดไว้มีสองประเด็นสำคัญ

ประชาชนบอกว่า เหตุการณ์ในประเทศไทยที่ “เศร้า” เป็นลำดับที่หนึ่ง คือ “เศรษฐกิจไม่ดี สินค้าแพง” ร้อยละ 54.40

ประชาชนบอกว่า “ความหวังในปีหน้า 2563” เป็นลำดับที่หนึ่งคือ “เศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนอยู่ดีกินดี” ร้อยละ 81.59    

ถ้าผู้มีอำนาจ ตอบโจทย์ตรงนี้ไม่ได้ กระแสเบื่อลุงก็ดี-กระแสไล่ลุงก็ดี ก็จะยิ่งเพิ่มพูนขึ้น เหตุการณ์แบบที่นายกรัฐมนตรี พบปะประชาชนที่แสดงอาการเบื่อหน่ายให้เห็นต่อหน้าต่อหน้าก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

เบื่อในที่นี่ ไม่ได้เบื่อแค่รัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้เท่านั้น แต่เบื่อระคนกับอัดอั้นตันใจที่ได้เห็นรัฐบาลลงทุน-ลงแรงไปกับการทำทุกอย่างตั้งแต่ ซื้องูเห่า-ทำลายกติกา-ทำลายศัตรูทางการเมือง เพื่อให้ตัวเองได้ครองอำนาจยาวนานยิ่งขึ้นไป ยิ่งไปกว่าการทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน

เห็นได้จากฉายา “สภาฯ ดงงูเห่า” และ “สภาทหารเกณฑ์” ที่สะท้อนภาพจำต่อสภาล่าง-สภาสูง ชุดนี้

อีกด้านหนึ่งฝ่ายค้านก็ต้องเร่งทำงานให้เข้มข้นยิ่งกว่านี้ เดินเกมส์ตรวจสอบอย่างเป็นรูปธรรม จับต้องได้ สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อรัฐบาล มิเช่นนั้นก็ไม่อาจสลัดจากภาพจำ “ขนมจีนไร้น้ำยา” ออกไปได้

แม้ผู้มีอำนาจจะใช้กลไกพิเศษหลายชุดหลายชิ้นเพื่อหนุนการครองอำนาจของรัฐบาลให้ยืดยาวออกไปและราบรื่น ทว่าที่จุดติดแล้ว และจะไม่เบาบางไปกว่านี้คือ ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ-ความเหลื่อมล้ำสูง ไปจนถึงปัญหาการมุ่งทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง จนผู้คนรู้สึกทนไม่ไหว ทั้งสองประเด็นนี้ จะเป็นสิ่งบ่อนเซาะการครองอำนาจของรัฐบาล ชนิดที่เรียกได้ว่า “อาจครองอำนาจยาวนาน แต่ขรุขระตลอดทาง”



วยาส
24Article
0Video
63Blog