ไม่พบผลการค้นหา
"ชวน" เผย อภิปรายงบประมาณ '63 ยาวนานกว่าทุกครั้ง ระบุ ถกพระราชกำหนดโดยหลักต้องเปิดเผย ด้านฝ่ายค้านวางมืออภิปราย 90 คน ‘เสรีพิศุทธ์’ ฉายเดี่ยว 45 นาที

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ได้กำหนดเวลาให้ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้อภิปรายฝ่ายละ 18 ชั่วโมง ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่นานที่สุดที่เคยมีการพิจารณา สำหรับเวลารวมของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ จะใช้เวลา 3 วัน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการพิจารณาวาระแรกนั้นจะใช้เวลาเพียง 2 วันเท่านั้น 

นายชวน ยังกล่าวถึงการพิจารณาอนุมัติพระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562 ว่า ปกติจะเป็นการประชุมโดยเปิดเผย แต่หาก ส.ส. ขอให้เป็นการประชุมลับสามารถทำได้

"ภูมิใจไทย" พร้อมรับร่าง พ.ร.บ. งบฯ แต่จะอภิปรายให้คำแนะนำ

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยได้เวลาการอภิปรายจำนวน 120 นาทีโดยจะมีผู้อภิปรายประมาณ 13-14 คนซึ่งเวลาในการอภิปรายของพรรคภูมิใจไทยนั้นไม่ได้กำหนดว่าใครจะต้องพูดกี่นาทีแต่จะมีการจัดสรรเวลาตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม แม้พรรคภูมิใจไทยจะพร้อมรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณฉบับนี้ แต่ก็จะอภิปรายให้คำแนะนำ และให้เสนอแนะแก่รัฐบาล ในการบริหารจัดการงบในเชิงพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ส่วนการปรับเพิ่ม หรือลดงบประมาณกระทรวงใดนั้น จะเป็นหน้าที่ของกรรมการวิสามัญ ที่จะมีการตั้งขึ้นมาพิจารณาต่อไป

วิปฝ่ายค้าน ยืนยันไม่ต้องการล้มรัฐบาล ขอฝั่งตรงข้ามเปิดใจรับคำแนะนำ

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะมีคนอภิปรายประมาณ 90 คน โดยจะเริ่มต้นจากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งวันแรกของการอภิปรายจะเป็นการพูดถึงภาพรวมและปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยจะมีการลำดับและปรับความสำคัญของการอภิปายตามสถานการณ์ แม้เวลา 18 ชั่วโมงที่ฝ่ายค้านได้รับนั้นอาจจะไม่เพียงพอแต่จะบริหารให้ลงตัวให้ได้ ยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่ต้องการล้มรัฐบาลและเราจะไม่เอางบประมาณมาเป็นเกมการเมือง เพราะเมื่องบประมาณไม่ผ่านก็จะกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง

"คิดว่าการอภิปรายตลอด 3 วันจะไม่มีความรุนแรงอะไร แต่รัฐบาลต้องเปิดใจกว้างแสดงท่าทีและไมตรีว่าจะนำสิ่งที่ฝ่ายค้านเสนอแนะไปปรับปรุงในวาระที่ 2 ซึ่งเราก็พร้อมที่จะให้โอกาส แต่ถ้าดูแล้วไม่มีท่าทีตอบรับก็อย่ามาโทษฝ่ายค้าน เพราะต้องยอมรับว่างบประมาณมีข้อบกพร่องมากแทบจะทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะงบประมาณแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่มีน้อย ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ ขณะที่บางงบประมาณอย่างงบกลางก็ไปกองให้สูงขึ้น ซึ่งปกติจะจัดสรรงบกลางไว้ไม่เกิน 10% ทำให้มากผิดปกติ" นายสุทิน กล่าว 

นายสุทิน เชื่อว่าการลงมติของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านน่าจะเป็นไปในทางเดียวกัน ในส่วนของ ส.ส. พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการคาดโทษ แต่ทุกคนจะรู้กันในใจว่าถ้าใครไม่รับทิศทางพรรค ก็จะไม่มีการขับออกจากพรรค แต่การเลือกตั้งจะไม่ได้ลงสมัคร

โดย 18 ชั่วโมงของฝ่ายค้านจะแบ่งออกเป็น พรรคเพื่อไทย 580 นาที 60 คน, พรรคอนาคตใหม่ 340 นาที 19 คน, พรรคเสรีรวมไทย 45 นาที 1 คน, พรรคประชาชาติ 45 นาที 4 คน, พรรคเศรษฐกิจใหม่ 25 นาที 2 คน, พรรคพลังปวงชนไทย 15 นาที 1 คน, และพรรคเพื่อชาติ 30 นาที 1 คน

ส่วนบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยโดยรอบอาคารรัฐสภา พื้นที่ภายนอก พบเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยอย่างเข้มข้น โดยนำแผงเหล็กกั้นตลอดแนวทางเท้าของพื้นที่รัฐสภา ทั้ง 2 ฝั่งถนน และได้ตรวจค้นรถที่จะผ่านเข้าออก โดยไม่มีสติ๊กเกอร์เข้าพื้นที่ และให้ประชาชนที่ไม่มีบัตรผ่านเข้าออก ซึ่งรัฐสภาออกให้ ต้องแลกบัตรก่อนเข้าพื้นที่ ทั้งนี้การรักษาความปลอดภัยดังกล่าวเพื่อเตรียมพร้อมการเข้าสภาฯ ครั้งที่สามของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม