ไม่พบผลการค้นหา
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 มี.ค.) ว่า ยูเครนจะไม่มีวันยกโทษให้กองทหารรัสเซีย ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุสังหารโหดในเมืองบูชา เมืองที่ติดกันกับกรุงเคียฟของยูเครน เนื่องในโอกาสวันครบรอบการยึดคืนเมืองบูชาที่ถูกยึดครองโดยรัสเซียกว่า 33 วัน

กองกำลังยูเครนกลับมาควบคุมเมืองเล็กๆ อย่างบูชาและเออร์ปิน ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ เมื่อช่วงปลายเดือน มี.ค.ของปีที่แล้ว เนื่องจากกองกำลังรุกรานของรัสเซีย ละทิ้งความพยายามในการยึดเมืองหลวงของยูเครนลง และหันไปเดินหน้าการปฏิบัติการในยูเครนทางตะวันออกแทน อย่างไรก็ดี ทางการรัสเซียปฏิเสธว่า ทหารของตัวเองไม่ได้สังหาร ข่มขืน และทรมาน จนมีภาพของศพประชาชนที่นอนเสียชีวิตตามท้องถนนของเมือง ภายหลังจากการถอนทัพออกไปของรัสเซีย

“ความชั่วร้ายของรัสเซียจะล่มสลายลงที่นี่ในยูเครน และจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีก มนุษยชาติจะมีอำนาจเหนือกว่า” เซเลนสกีกล่าว พร้อมเป็นผู้นำพิธีเชิญธงชาติยูเครนขึ้นยอดเสาในเมืองบูชา นอกจากนี้ ประธานาธิบดียูเครนยังได้มอบเหรียญรางวัลให้กับทหาร ที่เกี่ยวข้องกับการยึดเมืองกลับคืนมา เช่นเดียวกันกับการมอบเหรียญให้แก่ญาติๆ ในนามของทหารที่เสียชีวิตลงในสมรภูมิ

"เมื่อเมืองบูชาถูกยึดครอง เราเห็นว่าปีศาจไม่ได้อยู่ที่ใดที่หนึ่งแต่อยู่บนพื้นดิน ความจริงอันเลวร้ายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนที่ถูกยึดครองชั่วคราวนั้นถูกเปิดเผยต่อโลก" เซเลนสกีกล่าวโจมตีการกระทำของรัสเซียบนแผ่นดินยูเครน 

ภายหลังจากการถอนทัพของรัสเซียออกไปจากเมือง ภาพศพนอนเกลื่อนถนนถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกหลังยูเครนกลับเข้าควบคุมเมืองได้อีกครั้ง โดยทางการยูเครนกล่าวว่า มีประชาชนกว่า 1,400 คนถูกสังหารในบูชาระหว่างการยึดครองของรัสเซีย รวมถึงเด็ก 37 คน และกว่า 175 คนถูกพบในหลุมฝังศพหมู่และห้องทรมาน นอกจากนี้ ยังมีการชี้ความผิดอาชญากรรมสงครามต่อเจ้าหน้าที่ของรัสเซียกว่า 9,000 คน

ขณะนี้ผู้สืบสวนนานาชาติกำลังรวบรวมหลักฐานของอาชญากรสงครามในบูชา เออร์ปิน และสถานที่อื่นๆ โดยเซเลนสกีระบุว่า บูชาเป็น "สัญลักษณ์ของความโหดร้าย" ของกองกำลังยึดครองรัสเซีย “เราจะไม่มีวันลืมผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามครั้งนี้ และเราจะนำฆาตกรชาวรัสเซียทุกคนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างแน่นอน” เซเลนสกีกล่าวบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย "เราจะไม่ให้อภัย เราจะลงโทษผู้กระทำความผิดทุกคน"

ปัจจุบันนี้ การสู้รบดำเนินไปอย่างดุเดือดในทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครน ซึ่งกองกำลังรัสเซียยึดพื้นที่เป็นวงกว้างได้ หลังจากที่พวกเขาบุกเข้ายึดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 โดยรัสเซียทำการรุกรานในฤดูหนาว แค่กลับรุกคืบได้เพียงเล็กน้อยในพื้นที่ทางตะวันออก ด้วยความสูญเสียของรัสเซียจำนวนมาก ทั้งนี้ กองกำลังยูเครนได้ปกป้องและตรึงกำลังไว้ในเมืองบักห์มุต และมีการคาดว่ายูเครนจะเปิดฉากการรุกคืนเพื่อตอบโต้รัสเซียในเร็วๆ นี้


ที่มา:

https://www.reuters.com/world/europe/ukraine-marks-anniversary-liberation-bucha-symbol-atrocities-2023-03-31/?fbclid=IwAR08TEWFzsUBo6AsX1s3EKxq-iTO5TPS56JS63Pyc84kCBLlBqTolsDizYU