ไม่พบผลการค้นหา
บอร์ด ทอท.ไฟเขียว เลื่อนวันเริ่มสัญญาดิวตี้ฟรี 'คิง เพาเวอร์' ไปอีก 1 ปี เริ่มนับประกอบการเต็มรูปแบบ 1 เม.ย.2565 หลังโควิด-19 ส่งผลต่อการเปิดใช้งาน SAT-1 ยันเป็นแนวทางที่ ทอท.ได้ประโยชน์สูงสุด

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2563 ได้มีมติอนุมัติแนวทางขยายเวลาการปรับปรุงตกแต่งพื้นที่ เลื่อนระยะเวลาประกอบกิจการ และกำหนดการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) และบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ซึ่งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ประกอบกิจการด้วยวิธีการประมูล กำหนดอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย. 2563 – 31 มี.ค. 2574

โดยในช่วง 6 เดือนแรกของสัญญา ที่จะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการเข้าปรับปรุงพื้นที่ร้านทั้งภายในอาคารผู้โดยสาร และภายในอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) ให้ขยายออกไปเป็น 1 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 2563–31 มี.ค. 2565 ขณะเดียวกันให้เลื่อนระยะเวลาการเริ่มต้นและสิ้นสุดการประกอบการเต็มรูปแบบ นับตั้งแต่ 1 เม.ย.2565 – 31 มี.ค. 2575 จากเดิมที่ต้องสิ้นสุด 31 มี.ค. 2574

aot แถลง
  • นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

นายนิตินัย ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลต่อแผนการเปิดใช้อาคาร SAT-1 สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเดิมมีกำหนดเปิดบริการภายในปี 2563 ไปเป็นปี 2565 ซึ่งจะส่งผลให้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ไม่สามารถดำเนินการตามแผนภายใต้สัญญาเดิมได้ เช่น การติดต่อซัพพลายเออนำเข้าสินค้า ดังนั้นจึงได้มีการเจราจาร่วมกันเพื่อกำหนดวันเริ่มต้นอายุสัญญาให้สอดคล้องกับการเปิด SAT-1

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จะยังคงผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสาร (Sharing per Head) ตามที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เสนอมาในการประมูล และปรับขึ้นตามสัญญาเดิม โดยค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำโดยรวมจะแปรผันตามจำนวนผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริง โดยยืนยันว่าได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าเป็นทางเลือกที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุดกับ ทอท.