หลังสหรัฐฯ ถูกโจมตีจากการก่อเหตุยิงจรวดถล่มฐานทัพและสถานที่สำคัญของกองทัพสหรัฐฯ ในอิรักเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นพลเรือน 1 ราย และผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารของกองทัพสหรัฐฯ และกองกำลังพันธมิตรอีกหลายนาย 

ล่าสุด กลาโหมสหรัฐฯ หรือ ‘เพนตากอน’ ได้สั่งโจมตีทางอากาศถล่มฐานที่มั่นของกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในประเทศซีเรียเพื่อเป็นการตอบโต้ โดยเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ รายงานต่อสหประชาชาติ หรือ UN ว่ากองกำลังติดอาวุธเสียชีวิตหลายราย

การโจมตีทางอากาศครั้งนี้คือปฏิบัติการครั้งแรกภายใต้การสั่งการแบบ top-down หรือจากบนลงล่างโดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน โดยมีการสั่งการในช่วงเช้าของวันที่ 25 ก.พ.2564 หลังการปรึกษากับพันธมิตรสหรัฐฯ

จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าปฏิบัติการครั้งนี้มาจาก “แนวทางของไบเดนโดยตรง” ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการตอบโต้ไปยังการโจมตีชาวอเมริกันเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วเท่านั้น แต่ยังเป็นการ “จัดการการภัยคุกคามที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง” อีกด้วย โดยทุกขั้นตอนเกิดขึ้นอย่างรอบคอบเพื่อจุดประสงค์ในการสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ทางตะวันออกของซีเรียและอิรัก และเป็นการลดศักยภาพในการก่อเหตุครั้งต่อไปของกองกำลังติดอาวุธ

ขณะที่สถานที่ที่ถูกถล่มคือสถานที่ที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธกาตาอิบฮิสบอลเลาะห์และกาตาอิบซายิดอัลชูฮาดาใช้เป็นหนึ่งในฐานที่มั่นซึ่งตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ชายแดน คาดว่าจะเป็นสถานที่ที่กองกำลังติดอาวุธใช้เพื่อจุดประสงค์ในการลักลอบซ่องสุมอาวุธ

เคอร์บีย้ำว่า ปฏิบัติการนี้เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องชาวอเมริกันและกองกำลังพันธมิตร อย่างไรก็ตาม คำสั่งการของไบเดนครั้งนี้เรียกเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่าย รวมถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติฝั่งพรรคเดโมแครตเองอีกด้วย