ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ออกข้อกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินผ่อนคลายกฎเคอร์ฟิวเดิม โดยเปิดทางอำนวยความสะดวกกับประชาชน ให้ช่วงห้ามออกเคหสถานโดยยกเว้นพนักงานที่ปฏิบัติตามตามคำสั่งทางราชการ ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องพบแพทย์ รวมถึงบุคคลกรทางการแพทย์ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ การขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน ผู้ประกอบอาชีพในเวลาพิเศษ

วันที่ 10 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ2548 (ฉบับที่ 3) โดยข้อกำหนดมีใจความว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่26 มี.ค. 2563 เพื่อเป็นการกำหนดข้อยกเว้นในการปฏิบัติตมข้อกำหนด (ฉบับที่2) ให้ชัดเจนขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ2548 (ฉบับที่ 3) ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ในการบังคับใช้ข้อ 1 แห่งข้อกำหนดออกตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ2548 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 เม.ย. 2563 ให้ยกเลิกความในส่วนที่เป็นข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถานตามเวลาดังกล่าว และให้ใช้ข้อยกเว้นดังต่อไปนี้

(1) การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือผู้ช่วยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งต่างๆ ของทางราชการ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือพลเรือนซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอื่น

(2) การสาธารณสุข ได้แก่ผู้ป่วย ผู้มีความจำเป็นต้องพบแพทย์และผู้ดูแลบุคคลดังกล่าว หรือแพทย์ พยาบาล และบุคลาการทางการแพทย์ที่ต้องปฏิบัติงาน 

(3) การขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน ได้แก่ ผู้ขนส่งอาหาร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้า อุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร น้ำมันเชื้อเพลิง ไปรษณียภัณฑ์ พัสดุภัณฑ์ หนังสือพิมพ์ หรือสินค้าเพื่อการนำเข้าหรือส่งออก

(4) การขนส่งหรือขนย้ายประชาขน ได้แก่ ผู้ขนส่งหรือขนย้ายประชาชนไปที่เอกเทศของทางราชการหรือของตนเองเพื่อการเฝ้าระวัง หรือกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือผู้เดินทางมาจากหรือปยังท่าอากาศยานหรือสถานที่ขนส่งตามที่ทางราชการอนุญาตและเปิดให้ทำการได้

(5) การบริการหรือการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ได้แก่ ผู้บริการคนไร้ที่พึ่ง ผู้บริการเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงในสถานีน้ำมันเชื้อเพลิง ผู้บริการส่งสินค้าหรืออาหารตามสั่ง ผู้บริการตรวจสอบหรือซ่อมบำรุงไฟฟ้า ประปา ระบบระบายน้ำ ระบบท่อส่น้ำและก๊าซธรมชาติ ผู้บริการจัดเก็บหรือกำจัดขยะมูลฝอย ผู้บริการด้านธนาคาร ตลาดทุน ประกันภัย การกู้ภัย การป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติ ผู้จำเป็นต้องดำเนินการในกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือจำเป็นต้องติดต่อราชการกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือพนักงานสอบสวน

(6) การประกอบอาชีพซึ่งจำเป็นต้องกระทำภายในช่วงเวลาพิเศษ ได้แก่ ผู้เข้าออกเวรยาม กะ หรือการทำงานตามผลัดเวลาที่กำหนดไว้ตามปกติของทางราชการ เอกชน โรงงาน หรือการดูแลรักษาความปลอดภัย ผู้ประกอบอาชีพประมง การกรีดยาง การตรวจรักษาสัตว์

(7) เหตุจำเป็นอื่นๆ โดยได้รับอนุญาตเป็นการเฉพาะรายจากพนักงานเจ้าหน้าที่

ในกรณี (1) ถึง (6) ให้บุคคลที่มีความจำเป็นดังกล่าวแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรแสดงตนอย่างอื่น เอกสารรับรองความจำเป็น เอกสารเกี่ยวกับสินค้า บริการการเดินทางหรือหลักฐานอื่นๆต่อเจ้าหน้าที่ และต้องปฏิบัติตามมาตราการป้องกันโรคทีทางรชการกำหนดรวมถึงการยอมรับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย

สำหรับกรณี (7) ให้แสดงเหตุจำเป็นพร้อมทั้งหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ ผู้อำนวยการเขต หัวหน้าสถานีตำรวจ หรือผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องเพื่ออนุญาต

ข้อ 2 ในกรณีมีความจำเป็นสมควรยกเว้นความในข้อ 1 เพิ่มเติมเป็นการทั่วไป ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องโดยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรีอาจมีคำสั่งยกเว้นผู้ประกอบกิจการอื่นอันมีลักษณะทำนองเดียวกันภายในกรอบของกิจการตามข้อ 1 (1) ถึง (6) เพิ่มเติมโดยอาจกำหนดสถานที่ เงื่อนไขและเงื่อนเวลาด้วยก็ได้

ข้อ 3 ในกรณีมีการกระทำความผิดตามกฎหมายอื่น เช่น ความผิดต่อทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด กฎหมายว่าด้วยการพนัน กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และเป็นความผิดตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ด้วยให้ดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดทุกฐานความผิดนั้นโดยเร็ว 

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

ข้อกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน 3-5FA4-4A84-B037-F66F1A9A2D34.jpeg


ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับ 3 8E67-445F-9C84-62FC68A4B589.jpeg


ข่าวที่เกี่ยวข้อง