ไม่พบผลการค้นหา
ประธานกมธ.พัฒนาการเมืองฯ จ่อนัดเชิญ ผบ.ตร.-ผบ.อคฝ.-ผกก.สน.ดินแดงแจงปมกระสุนจริงยิงประชาชนหน้า สน.ดินแดง พร้อมเล็งตั้งคณะทำงานสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีเหตุรุนแรง ขณะที่ กมธ.ตำรวจฯ เรียก ผบช.น.แจงสลายชุมนุม 19 ส.ค.นี้

วันที่ 17 ส.ค. 2564 ที่รัฐสภา ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมจากประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่มีความรุนแรงตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และเมื่อคืนมีเหตุการณ์ยิงประชาชนที่ออกมาชุมนุมโดยกระสุนจริง และมีพยานหลักฐานบ่งชี้ว่ามีการยิงออกมาจากสถานีตำรวจนครบาลดินแดง กรณีดังกล่าวผู้กำกับ สน.ดินแดง และผู้บริหารระดับสูงของตำรวจ ต้องเอาพยานหลักฐานข้อเท็จจริงมาชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับไฟดับที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาพอเหมาะพอเจาะที่ สน. ไม่ว่าจะเป็นการใช้พื้นที่ในความควบคุมดูแลของท่านเป็นฐานที่มั่นในการทำร้ายประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีภาพบุคคลใช้อาวุธปืนยิงออกมาจาก สน. เหล่านี้ว่ากันด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่พูดแต่เพียงว่า ไม่รู้ไม่เห็น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยไม่มีหลักฐานอะไรเลย

“ในฐานะ ประธาน กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการตั้ง อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เป็นประธานคณะทำงานติดตามการชุมนุมเพื่อสังเกตุการณ์และรวบรวมเหตุความรุนแรง ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เตรียมพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะเหตุการณ์ความรุนแรงที่ สน.ดินแดง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเชิญ ผบ.ตร., ผบ.อคฝ., ผกก.สน.ดินแดง รวมถึงหัวหน้าหน่วยควบคุมฝูงชนที่ปฏิบัติหน้าที่ในคืนวันนั้นมาชี้แจง เพราะนี่เป็นเหตุการณ์ที่สังคมตั้งคำถามเป็นอย่างมากว่าสถาบันที่ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย จะเป็นฝ่ายละเมิดกฎหมายเองหรือไม่ เราซึ่งเป็นสมาชิกรัฐสภา เป็นตัวแทนจากประชาชน ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏ” ณัฐชา กล่าว

ณัฐชา กล่าวอีกว่า ในนามของประธานกมธ. จะเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนแสวงหาความจริงเรื่องนี้ โดยเชิญนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงบุคลที่ได้รับความเชื่อถือจากสังคมมาร่วมในการสืบสวนสอบสวนทำความจริงให้ปรากฏ 

“เพราะต้องยอมรับว่า เมื่อตำรวจตกเป็นจำเลยสังคมในกรณีนี้เสียเอง ก็อาจมีการสืบสวนสอบสวนที่ไม่เป็นกลางได้ ประชาชาชนอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมได้ เราในฐานะตัวแทนประชาชน มีหน้าที่ปกป้องสิทธิ์ประชาชนจึงต้องทำหน้าที่นี้ ตั้งคณะทำงาน และหาตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและกระบวนการทางวินัย ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนต่อไป ตอนนี้เริ่มติดต่อนักวิชาการที่จะเข้ามาเป็นคณะทำงานแล้ว เมื่อได้คณะทำงานครบถ้วนก็พร้อมเริ่มทำงานแสวงหาความจริงเพื่อให้ประชาชนรับทราบโดยเร็วที่สุด” ณัฐชา กล่าว

สัญญา นิลสุพรรณ -F294-4177-8F70-27354AEA8806.jpeg

กมธ.ตำรวจป้อง ตร.ยึดหลักสากลคุมม็อบ จ่อเชิญ ผบช.น.แจง

ขณะที่ สัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมการชุมนุมที่ผ่านมาว่า กมธ.ตำรวจได้ติดตาม และตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งที่ผ่านมา กมธ.ตำรวจได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง ไม่ว่าจะที่แยกราชประสงค์หรือหลายๆที่ ที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีการปะทะและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงเจ้าหน้าที่ก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน โดยเราได้ขอข้อมูลไปเบื้องต้น รวมถึงภาพจากสื่อมวลชนด้วยเช่นกัน 

สัญญา กล่าวว่า ทั้งนี้จากการสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการยืนยันว่าเป็นการใช้หลักสากลควบคุมมวลชน ไม่ว่าจะเรื่องขั้นตอน แนวทางการใช้เครื่องมือเข้าควบคุม อาทิ การใช้กระบอง การยิงกระสุนยาง การใช้น้ำฉีด การใช้แก๊สน้ำตา ซึ่งกมธ.ตำรวจได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตลอดเวลาว่าขอให้ใช้หลักสากลอย่างเคร่งครัด และได้รับคำยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่มีการใช้กระสุนจริงควบคุมสถานการณ์ และจากที่ได้เห็นภาพหลักฐานก็ยังไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธจริง ดังนั้นอย่าเพิ่งไปปลักปลำหรือโจมตีซะทีเดียว ขอให้ได้ฟังข้อมูลทุกด้าน

อย่างไรก็ตามหากท่านใดมีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่เกินกว่าที่ระเบียบกำหนด หรือใช้อาวุธจริงเข้าปราบปราม ทางกมธ.ตำรวจยินดีที่จะเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมฝูงชน โดยในวันที่ 19 ส.ค. กมธ.ตำรวจจะเชิญผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในการเข้าควบคุมมวลชนเข้ามาชึ้แจงที่รัฐสภา

เมื่อถามว่าจะมีการสอบถามผู้ชุมนุมอย่างไรบ้าง สัญญา กล่าวว่า ความจริงแล้วเรามีช่องทางให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งข้อมูลมาได้ นอกจากเราจะไปประสบเหตุและรู้ว่าเป็นใคร ก็อาจจะเชิญเขามาได้ วันนี้หลายกรณีทางกมธ.ตำรวจก็มีความสนใจ แต่คนที่ได้รับผลกระทบที่มีข้อมูลตนขอเชิญให้ส่งข้อมูลมาที่กมธ.ตำรวจ เราจะได้นำมาพิจารณา และเชิญมาให้ข้อมูล 

เมื่อถามว่าจะมีการประสานไปยังแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาให้ข้อมูลหรือไม่ สัญญา กล่าวว่า ไม่ได้ประสาน เพราะเราต้องเน้นไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนว่าปฏิบัติหน้าที่อยู่ในกรอบหรือไม่ เมื่อถามอีกว่า แบบนั้นข้อมูลจะไม่ออกมาด้านเดียวใช่หรือไม่ นายสัญญา กล่าวว่า ความจริงแล้วก็ไม่ใช่ด้านเดียว เพราะเราแสวงหาข้อเท็จจริง หากเราพบว่าบุคคลใดได้รับผลกระทบเราก็อาจจะเชิญมา หากเราพบเห็นหลักฐาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง