ไม่พบผลการค้นหา
'ปดิพัทธ์' ชี้เป็นไปตาม รธน. หากต้องหลุดตำแหน่งรองประธานสภาฯ ไม่เครียด พร้อมทุกบทบาท ปัดแสดงความเห็นจัดตั้งรัฐบาล มองทุกปมปัญหามาจาก รธน. และวงสืบทอดอำนาจ คสช.

วันที่ 9 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงกรณี วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี อ้างตามรัฐธรรมนูญ หากพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ปดิพัทธ์ จะต้องออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ 

โดย ปดิพัทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ วิษณุ พูดถูกต้องตามที่ระบุไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเหตุใดรัฐธรรมนูญ 2560 จึงเขียนแบบนี้ และมีเจตนารมณ์แบบใด รัฐธรรมนูญของประเทศอื่นก็ไม่ได้ห้ามเอาไว้ เรื่องนี้พรรคก้าวไกลคงต้องหารือกันเอง ว่าจะเลือกตำแหน่งใด เนื่องจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ต้องไม่มีสมาชิกมีตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ

ปดิพัทธ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นกิจการภายในของพรรคก้าวไกล ซึ่งในฐานะรองประธานสภาฯ ไม่ขอก้าวล่วง และยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีการหารือกันในที่ประชุมพรรคแล้วหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคแล้ว

ปดิพัทธ์ ยังเผยว่า ได้เตรียมพร้อมรับทุกบทบาท แต่ตอนนี้ยังเป็นรองประธานสภาฯ อยู่ ก็จะทำตามวิสัยทัศน์ที่เคยประกาศไว้ให้เรียบร้อย หากไม่ได้เป็นต่อก็สามารถทำหน้าที่ สส. หรือกรรมาธิการได้อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ได้รู้สึกเสียดาย

ขณะที่กรณีของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะมีเงื่อนไขในการทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ ปดิพัทธ์ กล่าวว่า ค่อยว่ากัน เป็นความไม่แน่นอนของศาลรัฐธรรมนูญ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ และไม่ทราบว่าจะต้องเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคหรือไม่

ปดิพัทธ์ ยังปฏิเสธให้ความเห็นกรณีพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ชี้ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ที่มีปมปัญหาเยอะ จึงควรมีกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะมาจากประชาชนจริงๆ 

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยพร้อมขอโทษและขอขมาพรรคก้าวไกล เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้นั้น ปดิพัทธ์ ย้ำว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องของทีมเจรจา ซึ่งตนเป็นคนวงนอกมากๆ ก็ขอทำงานของตัวเองหากมี 1 วัน ก็ทำ 1 วัน หากมี 4 ปี ก็ทำ 4 ปี ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม แต่ก็รู้สึกแปลกที่พรรคอันดับ 1 ชนะการเลือกตั้ง เสียงอันดับ 1 ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เป็นประธานสภาฯ ไม่ได้เป็นรองประธานสภาฯ ความแปลกนี้เกิดจากรัฐธรรมนูญปี 2560 กับการสืบทอดอำนาจของ คสช. อย่าไปคิดเป็นสาระที่จะต้องยึดเอาไว้

ปดิพัทธ์ ยังกล่าวว่า ไม่มีอะไรพลาด ตั้งแต่พรรคก้าวไกลปล่อยตำแหน่งประธานสภาฯ ให้กับพรรคอื่น ทุกอย่างเป็นการเจรจาที่ดีที่สุดในตอนนั้น ขอให้ประชาชนจับตาดูและตัดสินว่า พรรคที่เลือกมาทำตามสัญญาที่ให้กับประชาชน ไม่ต้องคิดมาก ยังมีเรื่องตื่นเต้นให้ทำกับประชาชนอีกเยอะ เช่น หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ก็จะมีทำประชามติหลายรอบ