ไม่พบผลการค้นหา
'มนต์สิทธิ์ คำสร้อย' เผยสามี 'จินตหรา พูนลาภ' เป็นคนอัธยาศัยดีแต่ไม่ชอบเข้าสังคมคนกลุ่มใหญ่ ฟาก 'โจ้ จังโก้' นักจัดรายการวิทยุลูกทุ่งรักไทย โชว์ภาพเก่าเล่าเส้นทางชีวิตปากกัดตีนถีบ ก่อนพบรักกับนักร้องสาวเสียงพิณที่สถานีวิทยุยานเกราะ เมื่อปี 2535

จินตหรา พูนลาภ ยืนโชว์บัตรประชาชนระบุชื่อ 'นางจินตหรา กวีสุนทรกุล' ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง ส.ส.ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 26 หน้าสโมสรหมู่บ้านมัณฑนา ซอยพระยาสุเรนทร์ 26 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา วันที่ 14 ธ.ค.2550 นำมาสู่การรายงานข่าวว่าเธอได้จดทะเบียนสมรสกับ 'นายกอบกิตติ กวีสุนทรกุล' ผู้จัดการส่วนตัว ตั้งแต่สมัยเป็นศิลปินค่ายมาสเตอร์เทปก่อนมาอยู่กับค่ายอาร์สยาม  

ความลับแตกขณะมีผลงานเพลง 'จินตหราแอ๊บแบ๊ว' ศิลปินนักร้องลูกทุ่งหมอลำ เจ้าของฉายา 'นักร้องสาวเสียงพิณ' ที่มีผมหน้าม้าเป็นเอกลักษณ์ มักเรียกแทนตัวเองว่า 'น้องจิน' ขอไม่พูดถึงเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เธอให้เหตุผลว่าเคารพงานและรักแฟนเพลงมากเกินกว่าที่จะพูดเรื่องส่วนตัว ก่อนให้สัมภาษณ์เปิดใจในปีถัดมา

"ยอมรับว่าแต่งงานแล้วไม่ตั้งใจปิดบังเรื่องมีสามี แต่ที่ไม่บอกใครเพราะไม่ได้คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจมากมาย อีกทั้งแฟนคลับที่ใกล้ชิดรู้อยู่แล้วว่ามีแฟน"

หลังจากพูดความจริง แฟนเพลงไม่แอนตี้ จินตหราเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงาน ป้อนเพลงแนวหมอลำม่วนๆ และลูกทุ่งอีสานซึ้งๆ เข้าไปประทับในใจคนฟังไม่เคยขาด โด่งดังสุดติ่งอีกกับเพลง 'เต่างอย' ที่ปล่อยออกมาในปี 2560 วงดนตรีลูกทุ่ง-หมอลำนำไปแสดงสดหน้าเวทีแทบทุกคืน ส่งผลให้ชื่อของเธอยังคงติดลมบน ต่างกับศิลปินรุ่นเดียวกันหลายเบอร์ทยอยหลุดวงโคจร พ่ายสายอินดี้ที่เข้ามาชิงตลาดเพลงส่วนใหญ่

ขณะที่เรื่องครอบครัวของเธอก็ยังได้รับความสนใจ อยากรู้อยากเห็นชายผู้ครองรักกับเธอมีรูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร มาจวบจนถึงปัจจุบัน ปี 2563

ล่าสุดมีการนำภาพถ่ายนักร้องคนดังร่วมเฟรมกับหนุ่มรูปหล่อ มาเล่นข่าวครึกโครมระบุว่า 'เปิดโฉมหน้าสามี จินตหรา พูนลาภ' ประเด็นนี้อาจดึงดูดความสนใจจากคนในสังคมได้ก็จริง แต่เป็นเรื่องโจ๊กเรียกเสียงหัวเราะในวงสนทนาคนใกล้ตัวหรือคนที่รู้จักมักคุ้นกับสามีนักร้องที่แจ้งเกิดตั้งแต่ปี 2530 มีผลงานเพลงเป็นที่รู้จักนับไม่ถ้วน อาทิ ถูกหลอกออกโรงเรียน, รักโผล่โสนแย้ม, รักสลายดอกฝ้ายบาน, น้ำตาสาววาริน, แตงโมงจินตหรา ฯลฯ อย่างนักจัดรายการวิทยุ, ช่างแต่งหน้าทำผม, แดนเซอร์ และศิลปินอย่าง 'มนต์สิทธิ์ คำสร้อย'

มนต์สิทธิ์ คำสร้อย บอกกับ 'วอยซ์ออนไลน์' ว่าหนุ่มรูปหล่อคนดังกล่าว แท้จริงแล้วเป็นช่างแต่งหน้าทำผมประจำตัวจินตหรามานานกว่า 20 ปีแล้ว

"น้องเขาชื่อหวาน เป็นลูกครึ่งสวัสดีค่ะ" มนต์สิทธิ์บอกพร้อมกับหัวเราะร่วน


"สามีจินตหราเป็นคนอัธยาศัยดี"

เป็นคำกล่าวจากเจ้าของเสียงร้องเพลงสั่งนาง, จดหมายผิดซอง พร้อมบอกต่อว่า ในอดีตเคยเป็นนักจัดรายการวิทยุหรือดีเจชื่อดังในชื่อ 'จังโก้1' จัดรายการเพลงลูกทุ่งหมอลำคู่กับ 'จังโก้2' หรือ 'โจ้ จังโก้' ก่อนยุติอาชีพดีเจผันตัวมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวจินตหรา ขณะที่โจ้ จังโก้ ช่วงหนึ่งมาเป็นโปรดิวเซอร์ผลิตเพลงให้กับศิลปินค่ายชัวร์ ออดิโอ หรือชัวร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ แต่ก็ไม่เคยทิ้งอาชีพดีเจ

โจ้

"ก่อนเป็นนักร้อง ชอบฟังเขาจัดรายการ พอเข้าวงการมาก็ได้ทำความรู้จักและสนิทกันมากขึ้น เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของจินตหรามายาวนานก็ว่าได้ นอกจากทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวรับงานดูแลคิวคอนเสิร์ตแล้ว ยังเป็นโปรดิวเซอร์ คัดเลือกเพลงให้จินตหรา และเป็นคนขับรถพาไปแสดงคอนเสิร์ตด้วย กับคนอื่นอาจรู้สึกว่าเขาทำตัวลึกลับ เพราะไม่ค่อยเห็นเขาปรากฏตัวในสังคมที่มีคนกลุ่มใหญ่ แต่สำหรับผมเวลาที่เจอกันหลังเวทีก็ทักทายกันตลอด คือเขาไม่ได้ปิด แต่ก็ไม่ไปเที่ยวป่าวประกาศว่าเป็นสามีจินตหรา จากวันแรกที่เจอกันมาถึงวันนี้รูปลักษณ์ภายนอกของเขาเปลี่ยนแปลงไปตามวัย แต่นิสัยใจคอยังดีเหมือนเดิม"

อดีตดีเจขวัญใจคอลูกทุ่งหมอลำ

อย่างไรก็ดีเมื่อเร็วๆ นี้ ด้าน โจ้ จังโก้ ปัจจุบันเป็นนักจัดรายการที่ลูกทุ่งรักไทย เอฟเอ็ม 90 ได้โพสต์ภาพเก่าของเขากับ นายกอบกิตติ กวีสุนทรกุล ลงเฟซบุ๊ก พร้อมกับเล่าเส้นทางชีวิตตั้งแต่สมัยปากกัดตีนถีบ เป็นดีเจจัดรายการเพลงลูกทุ่ง หมอลำ ก่อนแยกย้ายกันไปเติบโตประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

"เห็นรูปแล้ว..ทำให้ลมหวนพาเรื่องราวเก่าๆ มาเล่าสู่กันฟัง จังโก้1 จังโก้2" ดีเจขวัญใจคอเพลงลูกทุ่งหมอลำจั่วหัว

"เรื่องมันก็นานมาแล้ว"

"จังโก้เป็นคนอีสาน​ อาหารชอบแมงกินูน​เคยกินไหมแก้มจูนพูนแมงกินูนอีสานบ้านเฮา" นี่คือเสียงเพลงที่เปิดเป็นไตเติลก่อนเข้าจัดรายการวิทยุของจังโก้1-จังโก้2

เขาเล่าว่า จังโก้1 คือชื่อจัดรายการวิทยุของ นายกอบกิตติ เป็นคนบ้านสว่าง​ ต.สว่าง (ปัจจุบัน คือ อ.สว่างวีระวงศ์) อ.วารินชำราบ​ จ.อุบลราชธานี ส่วนจังโก้2 เป็นคนบ้านแสนสุข​ ต.กุดประทาย​ อ.เดชอุดม​ จ.อุบลราชธานี

โจ้

"ทำไมชื่อจัดรายการถึงชื่อจังโก้ และทำไมถึงต้องเป็น 1 เป็น 2​ คำว่าจังโก้​ ผมเป็นคนตั้งชื่อนี้เองครับ เพราะสมัยนั้นผมชอบดูหนังคาวบอยมากและ​อีกอย่างที่ตั้งชื่อแบบนี้ เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากนักแสดงทีวีกลุ่มหนึ่ง คือ​กลุ่มซูโม่สำอาง ในยุคนั้น​ เช่น ซูโม่ตู้ (จรัสพงษ์ สุรัสวดี), ซูโม่เจี๊ยบ (วัชระ ปานเอี่ยม), ซูโม่ตุ๋ย (อรุณ ภาวิไล), ซูโม่เอ๋ (เกรียงไกร อมาตยกุล), ซูโม่เป๊ปซี่ (ธีรวัฒน์ ทองจิตติ), ซูโม่อิฐ (อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์) ส่วนใหญ่เป็นศิษย์เก่าจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ ชอบดูพวกเขาเหล่านี้​ มีแก๊กสั้นๆ ตลกๆ ก็เลยเอามาเป็นแนวทางประยุกต์​ใช้ในการจัดรายการวิทยุ​ ให้มีเอกลักษณ์แบบสนุกๆ มีแก๊กเล็กๆ คำพูดฮาๆ ซึ่งถือว่าแปลกและแหวกแนวมากในยุคนั้น เพราะนักจัดรายการวิทยุส่วนใหญ่สมัยนั้นจะเน้นเสียงหล่อๆ พระเอกๆ แต่เราเน้นตลกๆ แต่ไม่กะโหลกกะลานะ​ มีสรรสาระแฝงอยู่ ทำให้พวกผมป็อปปูล่ามากช่วงนั้น"

เรียนศิลปะ – จัดรายการตั้งแต่มหาวิทยาลัย

โจ้ จังโก้ เล่าด้วยว่า นายกอบกิตติมีอายุมากกว่าเขา 4 ปี วันและเดือนเกิดตรงกัน ต่างกันแค่ปี พ.ศ. เป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนกันมาตั้งแต่เรียนศิลปะ ที่​วิทยาลัยอาชีวะศึกษา​อุบลราชธานี ​(วิจิตรศิลป์รุ่นที่ 6) ​เป็นลูกศิษย์​ของ​ อ.โชคชัย​ ตักโพธิ์, อ.จุฑา​ ขำเปรมศรี, อ.อำนวย วรพงศธร​ อาจารย์ผู้สอนยุคนั้น​ จากนั้นเข้ามาเรียนต่อ​ที่วิทยาลัยเพาะช่าง​ กรุงเทพฯ​ เรียนอยู่ห้องเดียวกันมาตลอด​ ก่อนไปจบปริญญาตรีกันที่​ มหาวิทยาลัย​ศรีนคริน​ทรวิโรฒ (มศว.ประสานมิตร)​

"ขณะที่เรียน​มีงานกิจกรรมต่างๆ ในสถาบัน​ พวกเราชอบแสดงออกเป็นพิธีกรบ้างเล่นตลกบ้าง​ เคยตั้งวงตลกกันชื่อคณะดอกมะเดื่อ เคยไปประกวดในรายการหนึ่งทางทีวีช่อง 5​ เริ่มต้นจัดรายการวิทยุ​ช่วงเรียน​มศว. ยังเป็นนักศึกษาอยู่เลยตอนนั้น​ เรียกได้ว่าเป็นนักจัดรายการวิทยุที่อายุน้อยที่สุด ผมอายุแค่ 21 ปี ก็เริ่มจัดรายการแล้ว​ จังโก้1 จังโก้2​ จัดรายการวิทยุร่วมกันเป็นเวลา 7 ปี ​ก็แยกย้าย​การทำงานกัน จังโก้1 ดวงพาวาสนาส่งได้ไปตกถังข้าวสารได้ดิบได้ดีไปเป็นผู้จัดการส่วนตั๊ว​ส่วนตัวนักร้องชื่อดัง​จินตหรา​ พูนลาภ ก็เลิกจัดรายการวิทยุ​ ไปทำหน้าที่ใหม่​คือเป็นผู้จัดการ​ จัดการทุกอย่าง​ จริงๆ 5555​ จัดการจนร่ำรวยมีบ้านหลายหลังรถยนต์หลายคัน ทรัพย์สิน​เงินทองมากมาย รวมมูลค่าเป็น 100 ล้าน" ​

ส่วนเขาหลังจากแยกย้ายกันกับจังโก้1​ ก็เปลี่ยนชื่อจัดรายการใหม่เป็น​ โจ้​ จังโก้ จัดรายการเรื่อยมาจวบจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 33 ปี เรียกได้ว่าไม่มีสถานีวิทยุไหนในกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยจัดตั้งแต่ภาคเอเอ็มจนถึงเอฟเอ็ม รายการลูกทุ่งดังๆ ในเมืองไทยผ่านมาหมดไม่ว่าจะเป็น​ ลูกทุ่ง​เอฟเอ็ม 95, เวทีไท 90, เวทีไท 103, มนต์เพลงลูกทุ่ง​สทร. เอฟเอ็ม 106, ลูกทุ่งสนั่นเมือง, ลูกทุ่งเน็ตเวิร์ก, อีสานเอฟเอ็ม 98, ลูกทุ่งรักไทย 90​


พบรักที่สถานีวิทยุยานเกราะ

โจ้ จังโก้ ให้สัมภาษณ์ 'วอยซ์ออนไลน์' เพิ่มเติมว่า นายกอบกิตติมีความสามารถด้านการร้องเพลง มี 'เทพพร เพชรอุบล' นักร้องนักประพันธ์เพลงลูกทุ่งอีสาน เจ้าของบทเพลงชื่อดัง 'อีสานบ้านเฮา' เป็นไอดอล ช่วงที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยอาชีวะศึกษาอุบลราชธานี อาศัยอยู่ที่วัดใน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กลางคืนไปเป็นนักร้องห้องอาหาร หาเงินส่งตัวเองเรียน ซึ่งเขาไปค้างแรมที่วัดด้วยอยู่เป็นประจำ ทำให้เกิดความสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น เมื่อเข้ากรุงเทพฯ ได้เช่าห้องหอพักอยู่ด้วยกัน

โจ้

ต่อมานายกอบกิตติแยกออกไป หลังจากพบรักกับจินตหราที่สถานีวิทยุยานเกราะ สี่แยกเกียกกาย ในปี 2535

"ตอนนั้นจินตหราปิดวงพักการแสดงหนีหน้าฝน และมาเป็นแขกรับเชิญสัมภาษณ์ในรายการ" โจ้ จังโก้ ย้อนอดีตขณะนั้นจังโก้1 และจังโก้ 2 เป็นนักจัดรายการให้กับบริษัทมาสเตอร์เทป ค่ายเพลงต้นสังกัดจินตหรา ใช้ชื่อรายการว่า 'เพลงรักจากจินตหรา' ที่ 'ชาย สีบัวเลิศ' หรือ 'เฮียยิ้ง' เจ้าของค่ายมาสเตอร์เทปทุ่มทุนสนับสนุนเพื่อประชาสัมพันธ์ผลงานเพลงของนักร้องตัวทำเงินโดยเฉพาะ ก่อนพัฒนาความสัมพันธ์เป็นแฟน และจดทะเบียนสมรสกันในที่สุด ครองรักกันมายาวนานกว่า 26 ปีแล้ว

ส่วนที่มีรายงานข่าวระบุว่าช่างแต่งหน้าเป็นสามีจินตหรานั้น ไม่รู้สึกประหลาดใจเพราะ นายกอบกิตติไม่เคยเปิดตัวกับสังคมที่มีคนกลุ่มใหญ่ ขนาดคนในวงการลูกทุ่งบางคนได้กระทบไหล่ใกล้ชิดบ่อยๆ ยังไม่รู้ว่าเป็นสามีของจินตหรา รวมทั้งที่ผ่านมาก็มีคนเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นสามีจินตหราเช่นกัน เพราะจำสับสนระหว่างจังโก้1 จังโก้2