ไม่พบผลการค้นหา
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกหน้าเป็นนายประกัน เบนจา อะปัญ ชี้อนาคตของชาติ ควรได้สิทธิ์ประกัน ปลุกสำนึกความยุติธรรมในสังคม มอง 112 เป็นเครื่องมือปิดปาก ปชช. ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาต ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อม วีนันท์ ฮวดศรี ทนายความ นำหลักทรัพย์เป็นเงิน 2 แสนบาท มายื่นประกันตัว เบนจา อะปัญ แกนนำกลุ่มราษฎร ผู้ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ กรณีอ่านแถลงการณ์ของแนวร่วมธรรมศาสตร์และชุมนุม หน้าอาคารอาคารซิโน-ไทย ถนนอโศกมนตรี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา 

โดยธนาธรกล่าวว่าวันนี้มาเป็นนายประกัน ให้เบนจาเนื่องจากเห็นถึงความไม่ยุติธรรมและต้องการแสดงให้เห็นว่ายังมีคนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับความอยุติธรรมในสังคมจากกรณีที่เบนจาไม่ได้สิทธิประกันตัว โดยศาลให้เหตุผลว่าเป็นคดีร้ายแรงและอาจมีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งในอดีตคดี 112 เคยมีการให้ประกันตัวมาแล้วหลายคดี จึงมองว่า การพิจาณาคดีมีหลายมาตรฐานเกินไป

ส่วนกรณีกลัวเกิดการหลบหนี ธนาธร ระบุว่า เบนจา เป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นรุ่นน้องของตน มีผลการเรียนดี เป็นอนาคตของชาติ เป็นว่าที่นักบินอวกาศ และจะมีสอบปลายภาคในเดือนธันวาคม จึงควรได้รับสิทธิประกันตัวเพื่อเตรียมสอบและทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน 


สามัญสำนึกขั้นพื้นฐาน

ธนาธร ยังมองว่า กรณีนี้ชี้ให้เห็นถึงยุคมืดของประเทศไทยในการใช้กฎหมายกดขี่ ปราบปรามประชาชนที่เห็นต่าง วันนี้มีคดีการเมืองกว่า 800 คดี มีคนเกี่ยวข้องกว่าพันราย ทั้งคดี ความผิดตามมาตรา112 มาตรา116 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งหลายคดีถูกดำเนินไปด้วยกระบวนการที่ไม่เป็นธรรม มีการข่มขู่คุกคาม ลัดขั้นตอน ทำให้คนที่ต้องการแสดงความเห็นต่างหวาดกลัว

การมาของตนในวันนี้จึงเป็นการยืนยันว่าจะยืนหยัดต่อสู้ พร้อมเรียกร้องให้คนในสังคมมีสามัญสำนึกขั้นพื้นฐานว่า ความยุติธรรมต่อใครคนใดคนหนึ่ง คือความยุติธรรมต่อทุกคน อย่าปล่อยให้รัฐที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนใช้อำนาจบาตรใหญ่ตามอำเภอใจ เพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนต่อไปได้อีก

ส่วนสาเหตุที่เลือกมาเป็นนายประกันให้ เบนจา เพราะอยากเห็นคนที่มีชื่อเสียง มีบทบาทในสังคมออกมาเคียงข้างนักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่ต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยมากกว่านี้ และหวังว่าศาลจะเห็นถึงความบริสุทธิ์ใจของ เบนจา แต่หากศาลไม่ให้ประกันก็จะใช้กระบวนการทางกฎหมายที่มีอยู่ผลักดันต่อไป ซึ่งในฐานะคนที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 เหมือนกัน ธนาธร มองว่า กฎหมายมาตรานี้กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อปิดปากผู้เห็นต่างจากรัฐบาล

ศาลไม่ให้ประกันทั้ง 2 คดี

ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น. วีรนันท์ ทนายความ เปิดเผยว่า ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวนางสาวเบนจา อะปัญ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยในวันนี้มีการยื่นประกันตัวใน 2 คดีที่ถูกกล่าวหาตามมาตรา 112

คดีแรก คือ คดีคาร์ม็อบของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมุนม ซึ่งมีการอ่านแถลงการณ์หน้าอาคารซิโน-ไทยทาวเวอร์ เมื่อวันที่ 10 ส.ค.64 เบนจาถูกออกหมายจับและถูกฝากขังตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยในวันนี้เป็นการฝากขังผัดที่ 2 และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากคณะก้าวหน้าได้นำหลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาทยื่นประกันตัว

ศาลมีคำสั่งว่า "พิเคราะห์คำร้องประกอบคำร้องปล่อยตัวชั่วคราวแล้วเห็นว่า เหตุตามคำร้องไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเดิม จึงให้ยกคำร้อง แจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องทราบ"

คดีที่สอง คือ คดีอ่านแถลงการณ์หน้าสถานทูตเยอรมนีเมื่อวันที่ 26 ต.ค.63 คดีนี้อยู่ระหว่างการนัดตรวจพยานหลักฐานในชั้นศาล และเมื่อ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการเพิกถอนประกันเบนจา เนื่องจากศาลเห็นว่าผิดเงื่อนไขการประกันตัว วันนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว 200,000 บาทจากกองทุนราษฎรประสงค์

ศาลมีคำสั่งในคดีนี้ว่า "แม้คดีนี้จำเลยที่ห้าจะเคยได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลก็กำหนดเงื่อนไขหากมีกระทำการในทำนองเดียวกันอันทำให้เป็นที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และเงื่อนไขอื่นๆ โดยให้จำเลยที่ห้าปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่ก็ยังปรากฎว่า จำเลยที่ห้าปฏิบัติผิดเงื่อนไขจึงถูกดำเนินคดีอื่นในศาลนี้ ในการกระทำในทำนองเดียวกัน ทั้งหลังจากการกระทำในคดีนี้ก็ยังปรากฏว่า จำเลยที่ห้า กระทำผิดเงื่อนไขในลักษณะเดียวกันซ้ำอีกเป็นคดีอื่นของศาลนี้และในคดีดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ดังนั้นจึงเป็นเหตุอันควรเชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ห้าอาจจะไปก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายประการอื่น ตามพฤติการณ์แห่งคดีจึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ห้า ยกคำร้องแจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องทราบ"